ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชl
อุ ท ก ด า บ ส - อาฬารดาบส
๔๖๖
ครั้นทรงตรวจดูด้วยพุทธจักษุ และเห็นเช่นนั้นแล้ว ก็
ทรงมีพุทธดำริว่า “ฉิบหายใหญ่แล้ว น่าเสียดายจริงหนอ ท่าน
อุทกดาบสรามบุตรผู้เป็นครูของตถาคตนี้ ถ้ามีชีวิตคอยท่า
ตถาคตอยู่อีกสักหน่อย ได้มีโอกาสฟังพระธรรมเทศนา ก็จะ
พลันบรรลุธรรมาภิสมัย มีพระนิพพานเป็นที่ไปอย่างแน่นอน”
บุรพาจารย์ทั้งสองท่านนี้ นับว่าเป็นบุคคลผู้พลาด
โอกาสอย่างใหญ่หลวง แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติ
ขึ้นในโลกแล้ว แต่ท่านก็มาละสังขารไปเสียก่อน ทั้งๆ ที่ยังไม่
หมดกิเลส เพราะเหตุที่อรูปฌานไม่เป็นนิยยานิกธรรม คือไม่
เป็นธรรมที่สามารถนําสัตว์ออกจากทุกข์ในวัฏสงสารได้ จึงยัง
เป็นชนภายนอกพระพุทธศาสนา และเสื่อมสูญจากอุดมประโยชน์
คือมรรคผลนิพพาน เพราะฉะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรง
รํา งดังที่กล่าวมานั่นแหละ
เราจะเห็นว่า มีมนุษยชาติมากมายที่ปรารถนาจะหลุดพ้น
จากความทุกข์ในวัฏฏะ ได้เพียรพยายามปรารภความเพียร
เพื่อที่จะทําอาสวกิเลสให้หลุดร่อนออกจากใจ เริ่มตั้งแต่สละ
ชีวิตทางโลก ออกบวชเป็นดาบส นักพรต ฤาษี แม้กระทั่งเป็น
นักบวชในพระพุทธศาสนา แต่ขาดโอกาส ขาดกัลยาณมิตร
ผู้ชี้ทางมรรคผลนิพพาน ส่วนใหญ่รู้จักทางไปสู่อบาย น้อยคน