ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรเพื่อประชาช
อสัญญีสัตตาพรหม
๔๑๗
กว่าความสุขที่เป็นของมนุษย์ และสุขอันเป็นทิพย์ของชาว
สวรรค์นั้น ผู้รู้ทั้งหลายได้แนะนำไว้ว่า จะต้องรู้จักปล่อยวาง
ในคน สัตว์ สิ่งของ ไม่ไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งเหล่านั้น ให้หา
โอกาสปลีกวิเวกเพื่อทําความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ให้บังเกิด
ขึ้นแก่ตัวเอง ด้วยการแสวงหาเสนาสนะอันสงัด ซึ่งเหมาะต่อการ
ปฏิบัติธรรม เช่น ตามโคนไม้ บนภูเขา ในซอกเขา ถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ
เป็นต้น จากนั้นท่านได้สอนต่อไปว่า ต้องมีใจประกอบด้วย
มหากรุณา เจริญเมตตาจิตเป็นประจําทั้งเช้าและเย็น แผ่เมตตา
ไปในทิศทั้ง ๔ อธิษฐานจิตให้ตนเองเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีภัยกับใคร
แผ่ขยายความปรารถนาดีที่เกิดจากใจใสบริสุทธิ์ไปทั่วโลก
ทั่วจักรวาล และฝึกฝนให้ชำนาญจนถึงขั้นได้อภิญญาจิต เป็น
ฌานลาภีบุคคล
ส่วนคำว่า เป็นผู้ปราศจากกลิ่นเหม็น ท่านหมายถึง
ต้องละเว้นจากเมถุนธรรม และจะต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้ไม่
มีความโกรธ ละการพูดเท็จ การโกง การประทุษร้ายมิตร
เป็นผู้ปราศจากความตระหนี่ถี่เหนียว ละขาดจากความเย่อหยิ่ง
ความริษยา ความมักได้ ความลังเล ไม่มีการเบียดเบียนผู้อื่นทั้ง
กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ความคิดที่จะประทุษร้าย
สรรพสัตว์ต้องหลุดออกจากใจหมดสิ้น ให้ละความเมาและ
ความหลงในสิ่งต่างๆ ผู้ที่ละจากกิเลสเหล่านี้ ท่านจัดว่าเป็น