ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชl
อุ ท ก ด า บ ส - อาฬารดาบส
๔๖๒
จึงเจริญมรรคอันอุดมเพื่อพ้นจากชรามรณะ ครั้นเจริญมรรค
อันบริสุทธิ์สะอาด ซึ่งมีปกติยังสัตว์ให้หยั่งถึงพระนิพพานแล้ว
ย่อมเป็นผู้ไม่มีอาสวะปรินิพพาน”
พร้อมกับ
หลวงพ่อได้อธิบายถึงพรหมภูมิและอรูปพรหม
สภาวธรรมของรูปพรหมตั้งแต่พรหมโลกชั้นที่ ๑ ซึ่งเป็น
พรหมโลกชั้นล่างสุดคือ พรหมปาริสัชชาภูมิ จนถึงพรหมโลก
ชั้นที่ ๑๖ และอรูปพรหมอีก ๔ ชั้น ถึงภวัคคพรหม ซึ่งเป็น
อรูปภพชั้นสูงสุดยอด คือ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ เพื่อให้
พวกเราได้เห็นภาพรวมของภพสามที่มีทั้งอบายและสุคติทั้งมนุษย์
สวรรค์ รูปพรหม และอรูปพรหม จากพุทธพจน์ที่ยกมาข้างต้น
ก็พอเป็นเครื่องยืนยันให้รู้ว่า ภพสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ
และอรูปภพ ต่างตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ
มีอายุขัยยืนยาวเป็นกัปๆ หรือเป็นหลายๆ ล้านมหากัปก็ตาม
สุดท้ายก็ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
มีที่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่หลุดพ้นจากการเวียนว่าย
ตายเกิด เสวยสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปน นั่นคืออายตนนิพพาน
เพราะทีใดไม่มีกิเลส ที่นั้นย่อมเป็นสภาวะที่ไร้จากความทุกข์
เพราะความทุกข์เกิดขึ้นจากกิเลสตัณหา ซึ่งกิเลสมีทั้งหยาบไล่
เรื่อยไปจนถึงกิเลสที่ละเอียด ตั้งแต่กามตัณหา ภวตัณหา
วิภวตัณหา ในภวัคคพรหมซึ่งเป็นอรูปภพชั้นเนวสัญญานา