ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชl
อสัญญีสัตตา พรหม
๔๒๐
ความทุกข์ทั้งปวงก็ไม่มี หากจิตนี้หายไปจากตน ไม่นึกไม่คิดก็
คงจะเป็นการดี”
เมื่อเฝ้าคิดรังเกียจจิตของตัวเองอย่างนี้แล้ว อาศัย
ความเป็นผู้ที่ได้ฌานที่แก่กล้า เฝ้าชอบใจในกิริยาที่ไม่มีจิตของ
ตัวเอง หมั่นประคับประคองรักษาจตุตถฌานไว้มิให้เสื่อมคลาย
ครั้นออกจากฌานแล้วก็ยังคงเฝ้าเกลียดชังจิต ให้เกิดความ
เบื่อหน่ายจิตของตัวเอง ด้วยความชอบใจในภาวะที่ไม่มีจิตนี้
จึงเฝ้าคิด เฝ้าปรารถนา เฝ้าภาวนาอยู่ตามตำราที่กล่าวสอน
ต่อๆ กันมาว่า “อสัญญีปิ อสญฺญี่ปิ” ขอเราจงอย่ามีสัญญา
ขอเราจงอย่าได้เป็นผู้มีจิตเลย”
การเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่อย่างนี้เป็นประจำจนตลอด
ชีวิต ครั้นละโลกก็ตรงมาอุบัติในพรหมโลกชั้นอสัญญีสัตตาภูมิ
ด้วยอานาจแห่งฌานสมาบัติ และด้วยแรงอธิษฐาน หากนักบวช
ท่านใด เมื่อถึงคราวจะละสังขาร ตายด้วยอิริยาบถใดนักบวช
ท่านนั้นก็จะตรงไปอุบัติเป็นพรหมอสัญญีสัตตาในอิริยาบถนั้นๆ
เช่น ถ้านั่งตาย ก็ตรงไปอุบัติเกิดเป็นองค์พรหมนั่งนิ่ง ถ้ายืนตาย
ก็ตรงไปอุบัติเป็นองค์พรหมยืนนิ่ง ถ้านอนตาย ก็ตรงไปอุบัติ
เกิดเป็นองค์พรหมนอนนิ่งอยู่ในอิริยาบถนั้นๆ ตลอดไป
เมื่อผู้มีรู้มีญาณไปตรวจดูก็จะมองเห็นพรหมผู้วิเศษเหล่านี้