ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
เทพจุ
๑๐๑
୭
เหงื่อย่อมไหลออกจากรักแร้ ๑ ผิวพรรณเศร้าหมองย่อม
ปรากฏที่กาย ๑ เทวดาย่อมไม่ยินดีในทิพยอาสน์ของตน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวดาทั้งหลายทราบว่า เทพบุตรนี้จะ
ต้องเคลื่อนจากเทพนิกาย ย่อมพลอยยินดีกับเทพบุตรนั้น
ด้วยถ้อยคำ ๓ อย่างว่า ท่านผู้เจริญ เมื่อท่านจากเทวโลกนี้
แล้ว จงได้ไปสู่สุคติเถิด ครั้นไปสู่สุคติแล้ว ขอจงได้ลาภที่
ท่านได้ดีแล้ว ครั้นได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ขอเป็นผู้ตั้งอยู่ด้วย
ดีเถิด”
ครั้งนี้ หลวงพ่อจะนำเรื่องความทุกข์ของชาวสวรรค์
มาเล่าให้ฟัง เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนพวกเราจะเข้าใจว่าชาว
สวรรค์คงจะไม่มีความทุกข์ คงมีแต่เสวยสุขล้วนๆ เพราะแท้จริง
แล้วภพภูมิที่มีสุขล้วนๆ นั้นไม่มี มีอยู่ที่เดียวคือ อายตนนิพพาน
ผู้รู้ท่านถึงกล่าวว่า นิพฺพานํ ปรม สุข นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
เป็นสุขล้วนๆ ที่ไม่มีทุกข์เจือปน กิเลสอาสวะไม่สามารถเข้ามา
ห่อหุ้มในกายธรรมอรหัตละเอียดได้ จึงไม่มีการเกิด การแก่
การเจ็บ และการตายอีกต่อไป เสวยเอกันตบรมสุขเพียง
อย่างเดียว
ชาวสวรรค์เขายังมีกิเลสที่เป็นตัวตัณหาครอบงำจิตใจอยู่
เหมือนกัน เพียงแต่เป็นกิเลสที่ละเอียดกว่าของชาวโลกทั่วไป
สภาวะความเป็นอยู่ก็มีแต่ของทิพย์หรือของละเอียดๆ อาหารก็