ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชl
เปรต ๑ ๒ ตระกูล (๑)
๑๑๗
ที่แท้เป็นเปรตตนหนึ่ง ซึ่งเวรกรรมชักนำให้มาเป็นเปรตรูปร่าง
อย่างนี้ พระเถระจึงถามว่า “ดูก่อนเปรต ท่านทำกรรมอะไรไว้
ในชาติปางก่อน จึงต้องมารับกรรมอันน่าสังเวชปานนี้
เปรตตอบพระเถระด้วยความเศร้าว่า “ท่านผู้เจริญ
เมื่อข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ ในครั้งศาสนาของพระกัสสปสัมมา
สัมพุทธเจ้านั้น ข้าพเจ้ามีความประมาท ได้ย่ำยีทำลายที่นา
ซึ่งผู้มีศรัทธาอุทิศเป็นที่กัลปนาถวายแด่สงฆ์ให้ฉิบหาย เพราะ
คิดว่ากรรมชั่วที่ทำไปจะมีผลเพียงเล็กน้อย และคงตามไม่ทัน
อีกทั้งเคยทําความดีไว้บ้าง ครั้นตายลงก็ต้องมาเกิดเป็นเปรต
อย่างที่พระคุณเจ้าเห็นอยู่นี่แหละ ข้าพเจ้าต้องอดข้าวอดน้ำ
มีร่างเป็นหินกองอยู่กับดิน เป็นเช่นนี้มาหลายหมื่นปีแล้ว”
เปรตผู้น่าสงสารกล่าวต่อไปว่า “ขอพระคุณเจ้า จงได้
โปรดเมตตาบอกมนุษย์ทั้งหลายว่า อย่าได้เอาเยี่ยงอย่างตาม
ข้าพเจ้า อย่าเบียดเบียนสงฆ์ จงอย่าได้ประมาทในบาป จงอุตส่าห์
ทําบุญทําทาน ขึ้นชื่อว่าของสงฆ์ของวัดแล้ว อย่าได้ล่วงเกิน
เป็นอันขาด เพราะจะเป็นทางนำไปสู่อบาย และต้องมาเสวยผล
กรรมเหมือนที่ข้าพเจ้ากำลังได้รับอยู่ในขณะนี้ จะหมดเวรกรรม
เมื่อใด ข้าพเจ้าก็ยังไม่ทราบเลย” เมื่อพระภิกษุได้ฟังวาจาของ
เปรตหินในป่าลึก ก็ให้รู้สึกสลดใจ จึงยืนแผ่เมตตาให้เปรตมี