ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชl
เปรต ๑ ๒ ตระกูล (๔)
๑๔๔
อาภรณ์ ดูงดงามสว่างไสวมาก แต่ในใจของเปรตตนนี้รู้สึกว่า
ตัวเองมีความหิวอยู่ตลอดเวลา ครั้นเวลากลางคืนหาอาหารจะ
กินก็ไม่ได้ จึงได้เอาเล็บมือที่คมกริบดุจมีดกรด ข่วนขูดเอาเนื้อ
และหนังของตนมากินแทนอาหารต้องเสวยสุขและทุกข์คลุกเคล้า
กันไปอยู่อย่างนี้มานานหลายพันปี
ที่ต้องมาเป็นเวมานิกเปรตก็เพราะว่า ชาติก่อนโน้น
เปรตตนนี้เคยเป็นผู้พิพากษาที่มีความโลภ ชอบกินสินบนของ
ราษฎร มิได้ตัดสินคดีความโดยธรรม มุ่งหน้าแต่จะกอบโกย
ทรัพย์สมบัติของประชาชนมาเป็นของตน ไม่สนใจการทําบุญ
ทํากุศล วันหนึ่ง เนื่องจากเป็นวันจําศีลอุโบสถ พระราชาทรงเป็น
ผู้มั่นในพระศาสนา จึงเรียกบรรดาอำมาตย์ทั้งหลายมาประชุม
กันในท้องพระโรง ทรงตรัสถามไปทีละคนว่า ใครเป็นคนรักษา
ศีลบ้าง ทุกคนต่างทูลตอบว่าเป็นคนรักษาศีลกันหมด
ครั้นหันมาถามผู้พิพากษาท่านนี้ ด้วยความเกรงกลัว ทั้งที่
ไม่เคยรักษาศีลเลย แต่เกิดความละอาย จึงกราบทูลว่าตัวเอง
ก็รักษาศีลเหมือนกัน แต่เพื่อนคนหนึ่งหมอบอยู่ข้างๆ รู้ว่า
ผู้พิพากษาคนนี้ไม่ได้ทำอย่างที่พูด จึงแนะนำว่า “ตั้งแต่คืนนี้ไป
ขอให้ท่านรักษาศีล ๘ เถอะ จะได้ชื่อว่าไม่ได้โกหกพระราชา”
ผู้พิพากษาเกรงว่าพระราชาจะทรงจับเท็จได้ จึงตกลงกับสหาย
ว่าจะสมาทานศีล ๘ ตลอดคืน