ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชl
ภ วั ค ด พ ร ห ม
๔๕๖
ฉันจะได้สรงน้ำให้ชุ่มใจเสียที อยากจะเจอน้ำมานานแล้ว”
ท่านกล่าวด้วยความดีใจสุดขีด เพราะมีความปรารถนาจะอาบ
และดื่มน้ำ และได้ปลดบาตรออกจากบ่า ทำท่าจะผลัดจีวรสบง
เพื่อลงสรงนํ้า สามเณรพูดขึ้นอีกว่า “น้ำไม่มี ขอรับ” พระอาจารย์
รู้สึกหงุดหงิดในคำพูดกลับไปกลับมาของสามเณร จึงกล่าวต่
สามเณรว่าเป็นคนพูดมุสา
สามเณรถูกปรับว่าเป็นคนศีลขาดเสียแล้ว ก็รีบเข้ามา
หาท่านพระอาจารย์ และบอกความจริงว่า ตัวเองไม่มีเจตนา
จะแกล้งพระอาจารย์ เนื่องจากว่า สามเณรไปเห็นน้าเปียกชุ่ม
หนทางข้างหน้าอยู่ เกรงว่ารองเท้าอาจารย์จะเปียก จึงกราบ
เรียนให้ถอดเสียก่อน แต่น้ำมีปริมาณเพียงแค่เปียกรองเท้า
เท่านั้น ไม่มีมากพอที่จะสรงได้ ความจริงเป็นเช่นนี้ พระอาจารย์
ฟังคําชี้แจงก็สบายใจ “เออ ถ้าอย่างนั้น ศีลเจ้าไม่ขาด” ท่าน
อาจารย์พูดแล้ว ก็คว้าบาตรขึ้นสะพายบ่า ถอดรองเท้าขึ้นหิ้ว
แล้วมุ่งหน้าเดินทางต่อไป ในตัวอย่างเรื่องนี้ มีคำชี้แจงว่า น้ำที่
เปียกชุ่มหนทางนั้น มีอยู่จริง สามเณรผู้หวังดีต่อพระอาจารย์
จึงบอกพระอาจารย์ไปอย่างนั้น แต่ครั้นไปถึงจริงๆ กลับใช้
ประโยชน์จากนานั้นได้ไม่เต็มที่ เพราะมีแต่ก็เหมือนไม่มี
ในเนวสัญญานาสัญญายตนอรูปพรหมนี้ก็เหมือนกัน
จะว่ามีสัญญาก็ไม่ใช่ เพราะสัญญานั้นมีแต่เหมือนกับไม่มี โดยที่