ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
โครงสร้างดาวดึงส์
២៤៨
ที่ใหญ่โตมโหฬารมาก สวยงามกว่าสวนใดๆ ในทิศนี้ คือ
สวนจิตรลดา มีเนื้อที่ประมาณ ๕๐๐ โยชน์ ในสวนจิตรลดามี
สระโบกขรณี ๒ สระ คือจิตรโบกขรณีกับจุลลจิตรโบกขรณี
เหตุที่สวนนี้มีชื่อว่า จิตรลดา ก็เพราะว่ามีเถาวัลย์ที่วิจิตร
พิสดารบังเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะมีเถาวัลย์ที่พิเศษซึ่งเป็นเถา
ชั้นยอดอยู่ชนิดหนึ่งชื่อว่า อาสาวดี เถาวัลย์ชนิดนี้หนึ่งพันปี
จึงจะออกดอกครั้งหนึ่ง เมื่อออกผลก็จะมีเพียงผลเดียวเท่านั้น
ครั้นออกดอกออกผลแล้ว ก็จะส่งกลิ่นหอมไม่แพ้ดอกปาริชาติ
ฉะนั้นเถาอาสาวดีจึงเป็นที่ดึงดูดตาดึงดูดใจของเหล่าทวยเทพ
ซึ่งต่างพากันใจจดใจจ่อรอคอยดูผลของเถาอาสาวดีนี้
ทิศตะวันตกมีสวนสวรรค์ชื่อ นันทวัน ในนันทวันมีสระ
๒ สระ คือ ๑. มหานันทา กับ ๒. จุลลนันทาโบกขรณี ในนันทวัน
นี้จะมีแท่นบรรทมสําหรับจุติของเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ คือเมื่อ
ตนไหนรู้ตัวว่าจะจุติ ก็จะมาเตรียมตัวจุติกันที่สวนนันทวันแห่งนี้
ก่อนจะจุติเหล่าทวยเทพทั้งหลายจะพากันมาอวยพรว่า “ท่าน
จากเทวโลกนี้แล้ว จงไปสู่สุคติเถิด” สุคติของเขาก็คือการได้มา
เกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างความดีให้ยิ่งยวดขึ้นไป จากนั้นต่าง
พากันกล่าวเชื้อเชิญให้มาเสวยสุขร่วมกันอีก
อย่างเช่นในเรื่องพระเวสสันดรโพธิสัตว์ ครั้งหนึ่งที่
ท้าวสักกเทวราชทราบว่า พระนางผุสดีเทพนารีจะสิ้นอายุ จึง