ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชll
อสัญญีสัตตาพรหม
๔๑๙
พระธรรมกาย ซึ่งเป็นลักษณะของมหาบุรุษ แต่มีข้อแตกต่าง
และน่าสังเกตว่า พรหมผู้วิเศษทั้งหลายเหล่านั้นมีอิริยาบถไม่
เหมือนกัน คือ บางองค์นั่ง บางองค์นอน บางองค์ยืน หากมี
อิริยาบถอย่างไร ก็จะอยู่ในอิริยาบถนั้นตลอดไป ไม่เคลื่อน
ไม่ไหวติง ทั้งจักษุทั้งสองก็ไม่กระพริบเลย สถิตเสวยสุขเป็น
ประดุจรูปปั้นอยู่อย่างนั้นชั่วกาลนาน จนกว่าจะหมดอายุขัย
ทำไมพรหมผู้วิเศษทั้งหลายในอสัญญีสัตตาภูมิจึงมี
ลักษณะเช่นนี้ มีเรื่องเล่าว่า ในยุคสมัยที่โลกยังว่างจากบวร
พระพุทธศาสนา ยังไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด
เสด็จมาอุบัติในโลกนี้ สมัยนั้นมนุษย์ชั้นปัญญาชนมีจิต
ปรารถนาจะพ้นจากภัยในวัฏสงสารจึงได้สละบ้านเรือนเข้าป่าไป
แล้วได้บวชเป็นโยคี ฤๅษีและดาบส ตั้งหน้าตั้งตาประพฤติพรต
พรหมจรรย์ป่าเพ็ญตบะ กระทําการบริกรรมในวาโยกสิณ
พยายามอยู่จนได้สําเร็จจตุตถฌาน ครั้นออกจากจตุตถฌานแล้ว
ก็รำพึงในใจว่า
“โอหนอ จิตนี้ นักปราชญ์จึงติเตียนเป็นแน่แท้ ด้วยว่า
บรรดาสัตว์ทั้งหลาย ที่ต้องไปทนทุกขเวทนาในอบายภูมิทั้ง ๔
ก็เพราะจิตนี่แหละเป็นต้นเหตุ ความทุกข์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น
ก็เพราะอาศัยจิตนี่เอง เมื่อถึงคราวถูกลงทัณฑกรรม ถูกโบยถูกตี
เพราะมีจิต จึงให้รู้สึกเจ็บ รู้สึกปวด เมื่อไม่มีจิตเสียอย่างเดียว