ข้อความต้นฉบับในหน้า
เข้า มาทางใจ นั่นแหละใจของเราก็จะเริ่มหยุด
คราวนี้แสงสว่างจะค่อย ๆ เกิดขึ้นราง ๆ เหมือนฟ้าสาง ๆ
เหมือนเราตื่นมายามเช้าตอนเช้าฟ้าสางอย่างนั้น ที่แสงสว่าง
เกิดขึ้นก็เพราะว่า ตะกอนของใจคืออินทรีย์ทั้ง 5 มันเริ่มตก เพราะ
ใจเราเริ่มหมดความกะวนกะวาย ความกะสับกะส่ง ใจ
หันกลับมามองตัวเราเอง แล้วก็เข้าใจหยุดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย
พอถูกส่วน แสงสว่างก็จะค่อย ๆ เกิดขึ้น
ตรงนี้ก็เป็นหัวเสี่ยงหวัดต่ออีกเหมือนกัน สำหรับนักปฏิบัติ
ใหม่ ๆ ซึ่งไม่เคยประสบอารมณ์อย่างนี้ ก็จะเกิดความชุ่มชื่น
เข้ามาในจิต มีความตื่นเต้นดีใจเหมือนกับเด็กที่ได้รับของขวัญ
โดยบังเอิญ โดยไม่คาดฝันอย่างนั้น พอใจใจก็จะกระเพื่อม
ความกะสับกะส่งก็เกิดขึ้นมา จิตก็จะฟู้นัน ถอนจากสมาธิ
แสงสว่างนั้นก็จะแดนหายไป พอหยุดหยายไป ผลก็จะแตงตามมา
สำหรับนักปฏิบัติใหม่ คือ อยากจะได้อารมณ์นั้นกลับคืนมา
ความอยากอันนี้แหละเป็นสมุทัย เป็นเหตุให้กิดความทุกข์
เพราะยิ่งเราอยากมากแค่ไหน ความผิดหวังก็จะเป็นเงาตาม
ตัวอย่างนั้น เมื่อเราทั้งอารมณ์หยาบไว้ นั่งด้วยตันหา ความ
ทะยานอยาก จิตของเราก็ร้อน กระสับกระส่ง ทุรนทุราย
เพราะฉะนั้นอารมณ์ตรงนั้นเลยไม่กลับมาอีก เมื่อไม่กลับมา
ก็เลยขี้เกียจนั่ง พลอยทีงธรรมะไป นี่สำหรับนักปฏิบัติใหม่ ๆ
ก็จะพบอย่างนี้