ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทั่งเคลือบ ทั่งเผือกออบ ซีเมซน ปนเป็น สวมซ้อน ร้อยใส่บังบ คในธนู ในธรรม ในเห็น ในจำ ใคร่รู้ บังคับกันหนาแน่น มองไม่เห็นเลย เราก็ไม่รู้
เหมือนคนตาบอด อยู่ในที่มืด แถมโดนผูกตาเสียอีก ทำให้ไม่รู้อะไรเลย อภิชฌาทที่เข้าเข้ามาบังคับนี้เหมือนกัน มันหนามแน่นหลายชั้นมาก ไม่ใช่แค่ 3 ชั้นที่ยกตัวอย่างไว้ แต่ว่ามันบังชั้นไม่วุ้น สิ่งเหล่านี้ก็เลยเป็นความลับของชีวิต จนกว่าเมื่อไรเราทำความสว่างให้เกิดขึ้นในใจของเราโดยการหยุด การนี้ สิ่งเหล่านี้ก็จะถูกเปิดเผยออกมา
เมื่อใครเราติดที่ศูนย์กลางกาย เหมือนติดกาวอย่างดีด ไว้กับกลางกาย ความสว่างก็จะเดิยด่า ยิ่งเข้าถึงพระธรรมกายพระธรรตรัยในตัว ก็จะยิ่งเจิดจ้าเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
อย่าถีงนั่งนั่งท่อนไหนวันนี้นั่งไม่ได้ผล เลิกเสียเถอะ เอาไว้เมื่อไรก็มั่นนั่งต่อ เราจะนั่งตามอารมณ์อย่างนี้มันไม่เหมาะ มันต้องให้เป็นกิจวัตรเหมือนเราบำบัด น้ำ ล้างหน้า แปรงฟันไม่ต้องมีใครมาเตือนเรา พอถึงเวลาที่เราก็ทำกิจวัตรนั้น ภาวนา นี่เป็นกิจสำคัญยิ่งกว่าการอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน