ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
สัมมาทิฏฐิ (๕)
๒๓๑
เขาสะอึกสะอื้นร้องไห้ เมื่อถูกพระราชาตรัสถาม ก็กราบทูลว่า
“ข้าแต่มหาราช แม้ข้าพระองค์เองก็ยังระลึกถึงความสุข
สบายในชาติก่อนได้ดี คือ ในชาติก่อนข้าพระองค์เกิดเป็นเศรษฐี
อยู่ในเมืองสาเกต ดำรงมั่นอยู่ในศีล ๕ มาโดยตลอด ยินดีในการ
บริจาคทาน ประกอบแต่สัมมาอาชีวะ ในชาตินั้น ข้าพระองค์
นึกถึงบาปไม่ออกเลย เมื่อข้าพระองค์จุติจากชาตินั้นแล้ว ก็มา
เกิดในครรภ์ของนางกุมภ์ทาสี หญิงขัดสนในมิถิลานครนี้ แต่แม้
จะเกิดมายากจนเช่นนี้ ข้าพระองค์ก็ยังประพฤติชอบ ได้ให้
อาหารครึ่งหนึ่งแก่ผู้ที่ปรารถนา ได้รักษาอุโบสถศีลในวัน ๑๔ ค่ำ
๑๕ ค่ำ เป็นประจำมิได้ขาดเลย
กรรมทั้งปวงที่ข้าพระองค์ประพฤติดีแล้วนั้น คงไร้ผล
เป็นแน่ ศีลนี้เห็นจะไร้ประโยชน์อย่างที่ท่านอลาตเสนาบดีกล่าวไว้
ข้าพระองค์พบแต่ความปราชัย เหมือนนักกีฬาที่ฝึกซ้อมมาดีแล้ว
แต่ยังต้องพ่ายแพ้คู่แข่งทุกครั้ง ข้าพระองค์ไม่เห็นประตูแห่ง
สุคติเลย ฉะนั้นข้าพระองค์จึงร้องไห้เพราะสงสารตัวเองที่ท่า
ความดีมาตลอด แต่ความดีที่ทำไว้นั้นกลับไม่ส่งผลเลย”
พระเจ้าอังคติราชสดับคําของทาสผู้ซื่อสัตย์แล้ว รู้สึก
สับสนพระทัย เพราะคนใกล้ตัวทั้งซ้ายและขวาต่างมีความเห็น
พ้องต้องกันหมดว่า ผลของบุญและบาปไม่มี สัตว์ย่อมได้รับสุข