ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
บุพกรรม นำพาชีวิต
๔๗๒
ท่านที่เคยว่าผู้อื่นว่าโง่ พระมหาปันถกเถระจึงพูดขึ้นว่า
“จุลปันถก เธอคงไม่มีบุญที่จะอยู่ในพระศาสนาแล้ว
เวลาล่วงเลยมาถึง ๔ เดือน ยังจำคาถาเพียงบาทเดียวไม่ได้
แล้วหน้าที่ของพระภิกษุ ซึ่งยังมีกิจที่สูง และยากยิ่งกว่านี้ เธอ
จะทำได้หรือ เธอจงออกไปจากที่นี่เสียเถิด”
ครั้นถูกพระพี่ชายต่อว่าเช่นนั้น ท่านเสียใจมาก เพราะ
ในใจยังเสียดายผ้าเหลือง ไม่อยากลาสิกขา จึงยืนร้องไห้อยู่ที่
ซุ้มประตูวิหาร แม้เวลาที่มีกิจนิมนต์ ซึ่งโยมนิมนต์พระถึง
๕๐๐ รูป พระมหาปันถกก็อนุญาตให้พระรูปอื่นไปหมด ยกเว้น
พระจุลปันถกเท่านั้น ก็ยิ่งทำให้ท่านน้อยใจมากขึ้น
พระบรมศาสดาทรงล่วงรู้ความในใจ จึงเสด็จมาโปรด
โดยบอกกัมมัฏฐานให้ตรงกับอุปนิสัยในกาลก่อนของท่านทรงมอบ
ผ้าสะอาดให้ผืนหนึ่ง แนะนำให้บริกรรมภาวนาว่า “รโชหรณัง
รโชหรณัง" เพียงพระบรมศาสดาตรัสบอกวิธี พระจุลปันถกก็
ทําตามโดยนั่งลูบคลําผ้าและบริกรรมจนกระทั่งใจหยุดใจนิ่ง
สามารถก๋าจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไปได้ บรรลุอรหัตตผล
ถึงพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ ๔ และอภิญญา 5
หมอชีวกซึ่งได้นิมนต์พระไปฉันภัตตาหารแล้ว ขณะ
กำลังเริ่มจะถวายข้าวยาคู พระบรมศาสดาทรงปิดบาตรพลาง