ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
สัมมาทิฏฐิ (๖)
๒๔๑
ได้ชัดเจนกว่าว่า แต่ละภพแต่ละชาติเป็นเหตุเป็นผลกันอย่างไร
จึงกราบทูลพระบิดาว่า
“เมื่อก่อนลูกเพียงแค่ได้ยินเท่านั้น แต่วันนี้ได้เห็นประจักษ์
แล้วว่า ผู้ใดคบคนพาล ผู้นั้นก็เป็นพาลไปด้วย ผู้หลงทางอาศัย
คนหลงทางแนะนำ ก็ยิ่งหาทางออกไม่พบ ผู้ใดคบคนพาล ผู้นั้น
ก็เป็นคนพาล เหมือนม้าเดินตามหลังคนเลี้ยงม้าขาเป๋ หรือ
เหมือนต้นมะม่วงแม้จะมีผลหวานอร่อย แต่เมื่อปลูกใกล้ต้น-
สะเดาก็มีรสขมได้ คำพูดเหล่านี้ หม่อมฉันล้วนเคยได้ยินมา
วันนี้ได้เห็นประจักษ์แล้ว เสด็จพ่อ การที่พระองค์อาศัยคนพาล
อย่างคุณอเจลกะผู้ไม่มีความละอายเหมือนเด็กชาวบ้าน และ
หลงเชื่อคําของอลาตเสนาบดีผู้เสื่อมจากชาติ ทั้งคบกับวีชกทาส
เช่นนี้ไม่สมควรเลย ไฉนพระองค์จึงไปหลงเชื่อคนเช่นนี้เล่า
ขอเสด็จพ่อได้โปรดไตร่ตรองคําของหม่อมฉันด้วยเถิด”
จากนั้นพระราชธิดาทรงระลึกชาติไปดู อดีตชาติของ
อลาตเสนาบดีว่า เขาทำกรรมอะไรจึงได้มาเป็นเสนาบดี และ
กราบทูลพระบิดาว่า อลา เสนาบดีระลึกชาติได้เพียงชาติเดียว
และยังไม่เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งก่อนที่เสนาบดีผู้หลงผิดนี้
จะไปเกิดเป็นนายโคฆาต ในสมัยของพระกัสสปพุทธเจ้า เขาได้
เอาพวงดอกอังกาบไปบูชาพระเจดีย์ด้วยจิตที่เลื่อมใส ครั้นละ
จากอัตภาพนั้นแล้ว ได้ท่องเที่ยวอยู่ในสวรรค์เป็นเวลายาวนาน