ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
มหาสมบัติของผู้มีบุญ
៤៤៦
ถวายทานได้แค่น้ำผักดองกับข้าวปลายเกรียน แต่ท่านยังคง
ทำบุญไม่หยุด ทําไปตามกำลังในขณะนั้น ถึงแม้เงินทองของ
ท่านจะลดลง แต่ศรัทธาในใจท่านไม่เคยลดลง แม้มีทรัพย์น้อย
แต่มากด้วยศรัทธา ตั้งมั่นเป็นอจลศรัทธาทีเดียว
จนกระทั่งเทวดาประจำบ้านซึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิทนไม่ไหว
ต้องออกปากห้ามปราม แต่ท่านไม่ยอมหยุดยั้งในการสร้างมหา-
ทานบารมี กลับให้โอวาทเทวดาว่า “ท่านอย่ามาพูดอย่างนี้เลย
เมื่อท่านไม่เห็นด้วย ก็อยู่เฉยๆ เถิด อย่ามาขัดขวางกัน ท่าน
อย่าอยู่ที่นี่เลย ไปหาที่อยู่ใหม่เถิด” เนื่องจากท่านเศรษฐีเป็น
พระโสดาบัน มีบุญมากกว่าเทวดา และเป็นเจ้าของบ้านด้วย
เมื่อออกปากไล่ เทวดาก็อยู่ไม่ได้ ต้องระเหเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ
ท้าวสักกะจึงแนะนำเทวดาว่า ให้นำเอาสมบัติ ๕๔ โกฏิของท่าน
เศรษฐีที่หายไปมาคืนท่าน เมื่อเทวดาไปขนสมบัติมาคืน ทําให้
เศรษฐีมีสมบัติใช้สร้างบารมีมากยิ่งขึ้น แล้วท่านเศรษฐีจึงยกโทษ
ให้เทวดา กลับมาสิงสถิตอยู่ในบ้านดังเดิม
เราจะเห็นว่าคนที่ทำบุญไว้มากๆ จะไม่มีวันจนอย่างเด็ด
ขาด และไม่มีวันตกต่ำอีกด้วย แม้เศรษฐกิจจะตกต่ำ แต่จิตใจ
กลับสูงขึ้น เพราะอานุภาพบุญจะช่วยเกื้อกูลให้เจริญรุ่งเรือง
ไม่มีวันตกต่ำา มีอีกตอนหนึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ คือ มีพราหมณ์
คนหนึ่ง เป็นผู้รู้ลักษณะของสิริ สิริเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์