ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bะเพื่อประช
สัมมาทิฏฐิ (๘)
๒๕๖
อัปสรในสวนนันทวันบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นผู้ฉลาดในการ
ฟ้อนรำาขับร้อง เป็นบาทบริจาริกาของท้าวสักกะ หลังจากจุติ
จากดาวดึงส์พิภพนั้นแล้ว บุญที่เคยทำไว้ในครั้งที่เกิดเป็นลูก
เศรษฐีในเมืองโกสัมพี ได้ตามมาให้ผล ครั้นจุติจากดาวดึงสพิภพ
ได้เวียนว่ายตายเกิดใน ๒ ภพภูมิเท่านั้น คือ เป็นมนุษย์และ
เทวดาอยู่ ๗ ชาติ และต้องเกิดเป็นหญิงอยู่ถึง 5 ชาติ เพราะ
กรรมเจ้าชู้ที่หม่อมฉันเคยทำไว้นั้น ในชาติที่ ๗ หม่อมฉันจึงได้
เกิดเป็นเทพบุตรผู้มีฤทธิ์มาก
ทุกวันนี้ นางเทพอัปสรทั้งหลายได้ร้อยพวงมาลัย มอบ
ให้กับเทพบุตรนามว่าชวะ ผู้เป็นว่าที่สามีของหม่อมฉันอยู่ที่สวน
นันทวัน บัดนี้อายุของหม่อมฉันผ่านไปได้ ๑๖ ปีแล้ว แต่ ๑๖ ปีนี้
เป็นเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นของเทวดาชั้นดาวดึงส์ เพราะ 900
ปีในเมืองมนุษย์ เท่ากับหนึ่งวันหนึ่งคืนของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ฉะนั้นกรรมทั้งหลายย่อมติดตามไปทุกๆ ชาติ ไม่ว่าจะเป็น
กรรมดี หรือกรรมชั่ว เมื่อยังไม่ให้ผลแล้ว ก็จะยังไม่พินาศไป”
ต่อจากนั้น พระราชธิดาได้แสดงธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไปว่า
“ชายใดปรารถนาเป็นบุรุษทุกชาติ ก็พึงเว้นภรรยาผู้อื่นเสีย
เหมือนบุคคลล้างเท้าจนสะอาดแล้ว เว้นจากเปือกตม ฉะนั้น
หญิงใดปรารถนาเป็นบุรุษทุกๆ ชาติ จึงยำเกรงสามี เหมือน