ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bะเพื่อประช
สัมมาทิฏฐิ (๗)
๒๔๖
คุ้นเคยกับของเน่าเหม็น ในที่สุดอาจกลายเป็นผู้เห็นผิดเป็นชอบ
เห็นชั่วเป็นดี เพราะไม่เห็นผลของการทําบาปเกิดขึ้นในทันที
จนบางครั้งอาจกลายเป็น “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว”
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะไม่เข้าใจในเรื่องบาปบุญคุณโทษอย่าง
แจ่มแจ้ง ไม่ได้ตระหนักถึงชีวิตหลังความตาย และกฎแห่งการ
กระทำว่า มีความสลับซับซ้อนเพียงไร จึงได้ประมาท โดยถือ
การกระทําที่ตนได้รับผลประโยชน์ในปัจจุบันเป็นหลัก น่าสติ
ปัญญาความสามารถไปทำเรื่องผิดศีลผิดธรรม ครั้นได้ทรัพย์สิน
เงินทองมามากมาย จึงเหมาว่าสิ่งที่ได้ทำไปนั้น ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว
ทําให้ยิ่งทําบาปอกุศลเพิ่มขึ้น โดยไม่รู้ว่า วันข้างหน้าสมบัติจะ
กลายเป็นวิบัติ เหมือนเรือที่บรรทุกของหนักเกินไป สุดท้ายย่อม
ต้องจมลงสู่ทะเลลึกฉะนั้น
การทําบาปที่ไม่หนักถึงขั้นเป็นอนันตริยกรรม ซึ่งเป็น
ครุกรรม ก็ใช่ว่าจะส่งผลให้เห็นในภพชาตินี้ บาปอกุศลบางอย่าง
ที่เราทำไป แม้จะยังไม่ส่งผลในชาตินี้ หรือชาติหน้ายังไม่ทันส่ง
ผลก็มี เพราะบุญยังคุ้มอยู่ แต่จะส่งผลในชาติต่อๆ ไป การให้ผล
ของกรรม ทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรมจึงมีความซับซ้อนมาก
ต้องอาศัยการทําใจให้หยุดนิ่ง จนได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย
และอาศัยธรรมจักษุและญาณทัสสนะของพระธรรมกาย
ตรวจตราดู จึงจะรู้ว่า วิบากที่เกิดในปัจจุบัน มาจากกรรมอะไร