ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ถนอมน้ำใจกันไว้
๗๕
มากกว่าคำพูดของบุคคลอื่น ดังนั้นต้องรู้จักพูดถนอมน้ำใจกัน
และอีกประการที่สําคัญคือ ต้องรู้จักมองข้อดี มองความดีของ
กันและกัน ถ้ารู้จักมองกันด้วยความรักความปรารถนาดีเช่นนี้
ยามมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหรือเมื่อเกิดการกระทบกระทั่งกันบ้าง
ตามประสาชีวิตคู่ ย่อมจะให้อภัยกันได้ง่าย ไม่ผูกโกรธ ชีวิต
ครอบครัวก็จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ครอบครัวไม่มีปัญหา
เป็นครอบครัวตัวอย่างที่โลกต้องการ
เรื่องความน้อยอกน้อยใจนี้เป็นอันตรายมาก บางครั้ง
การแสดงความหวังดีกับผู้ที่เรารัก กลับไม่ได้รับความเข้าใจเท่า
ที่ควร เรื่องทํานองนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายยุคหลายสมัย แม้ใน
สมัยพุทธกาลก็เคยเกิดขึ้น *เมื่อคราวที่พระบรมศาสดาของเรา
ประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร วันหนึ่งมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง
สามีเป็นกุฎมพี กุฎมพ์ในสมัยพุทธกาลหากจะเปรียบเทียบใน
สมัยนี้ คือเป็นผู้มีอันจะกิน มีฐานะดี ได้รับการยอมรับจากสังคม
กุฎมพีท่านนี้ได้เดินทางเข้ามาในเมืองเพื่อต้องการจะชำระหนี้
และซื้อของอีกจํานวนหนึ่ง เพื่อไปทำธุรกิจต่อ ครั้นชำระสะสาง
และได้ฝากของไว้ในตระกูลที่รู้จักกัน จากนั้นก็เดินทางเข้าไปยัง
เมืองสาวัตถี ระหว่างทางภรรยาเห็นภูเขาลูกหนึ่งจึงเอ่ยถาม
*มก. สุจจชาดก เล่ม ๕๔ หน้า ๕๑๓