ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ที่พึ่งในภพหน้า
៤៣៨
ละโลกแล้ว ทั้งสองได้ไปบังเกิดในสวรรค์
ต่อมามีพราหมณ์อีก ๒ คนได้ชักชวนกันไปเข้าเฝ้าพระ
ผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาทพระพุทธองค์ พลางกราบทูลพระ
ผู้มีพระภาคเจ้าว่า “ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็น
พราหมณ์แก่เฒ่า เป็นผู้ล่วงมัชฌิมวัยถึงปัจฉิมวัย จนอายุได้ ๑๒๐
ปีแล้ว เนื่องจากเป็นผู้ประมาท จึงมิได้ทำความดี ยังมิได้สร้าง
บุญกุศล มิได้ทำที่ป้องกันภัย ขอพระโคดมผู้เจริญทรงให้โอวาท
แก่ข้าพระองค์ทั้งสอง ขอพระองค์ทรงพร่ำสอนในสิ่งที่จะเป็น
ประโยชน์ เพื่ออนุเคราะห์แก่ข้าพเจ้าสิ้นกาลนานด้วยเถิด”
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “พราหมณ์ ท่านแก่เฒ่ายัง
ไม่ได้ทำที่ป้องกันภัย โลกนี้อันชรา พยาธิ มรณะเผาไหม้แล้ว
เมื่อโลกถูกชรา พยาธิ มรณะไหม้อยู่อย่างนี้ ความสำรวมทางกาย
วาจาและใจ ย่อมเป็นที่ต้านทาน เป็นที่เร้นภัย เป็นเกาะ เป็นที่
อาศัย เป็นที่ไปในเบื้องหน้าของบุคคลผู้สำรวม ผู้ละโลกนี้ไปแล้ว”
จากนั้นพระพุทธองค์ตรัสพระคาถาเป็นโอวาทานุสาสนี้แก่
พราหมณ์ทั้งสองคนว่า
“เมื่อเรือนถูกไฟไหม้ สิ่งของใดที่นำออกได้ สิ่งนั้นย่อม
เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่เขา สิ่งของที่ถูกไหม้อยู่ในเรือนนั้น หา
เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่เขาไม่ ฉันใด เมื่อโลกถูกชราและมรณะ