ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
มหาทานบารมีแห่งยุค
๒๕๔
อังกุระตอบโดยไม่ลังเลว่า “ถ้าท้าวสักกะจะให้พรแก่เรา เราจะ
ขอพรว่า เมื่อเราลุกขึ้นแต่เช้า ในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ขอ
ภักษาหารอันเป็นทิพย์และผู้มีศีลจึงปรากฏ เมื่อเราให้ทานอยู่
ไทยธรรมอย่าพึ่งหมดสิ้นไป ครั้นเราให้ทานแล้ว ก็ไม่พึงเดือดร้อน
ในภายหลัง เมื่อกำาลังให้ จึงยังจิตให้เลื่อมใส”
แม้หมู่ญาติของท่านจะรักในการให้ทาน แต่ใจไม่กว้างใหญ่
เหมือนอังกุระ จึงได้กล่าวเตือนว่า “ท่านไม่ควรให้ทรัพย์ทั้งหมด
แก่คนอื่น ควรรักษาทรัพย์ไว้บ้าง เพราะทรัพย์เท่านั้นประเสริฐ
กว่าทาน ให้ทานมากเกินประมาณจะทำให้สกุลดำรงอยู่ไม่ได้
บัณฑิตย่อมไม่สรรเสริญการไม่ให้ทาน และการให้เกินควร
ทรัพย์เท่านั้นประเสริฐกว่าทาน บุคคลผู้เป็นปราชญ์ควร
ประพฤติโดยพอเหมาะ”
อังกุระก็ไม่ยอมคล้อยตาม เพราะอยากสั่งสมบุญไว้มากๆ
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ท่านเกิดในยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้า
บังเกิดขึ้น ไม่มีเนื้อนาบุญแม้เพียงท่านเดียว ทานที่ทำไปจึง
เหมือนหว่านพืชลงในดินที่ไม่ดี แต่ท่านก็อุทิศตนให้กับการทํา
ทานอย่างเต็มกำลัง
ทุกๆ วัน อังกุระได้ให้อาหารแก่ชาวเมืองวันละ 50,000
เล่มเกวียนเป็นประจำ มีพ่อครัว ๓,000 คน เด็กหนุ่ม 50,000