ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชll
ให้ทานอย่างสัตบุรุษ
๓๕๐
ครั้นให้ไปแล้ว ตามระลึกถึงทานที่ได้ทำไป ก็เกิดปีติในบุญยิ่งขึ้น
บุญกุศลก็บังเกิดขึ้นทั้ง ๓ ระยะ เรามาดูลักษณะการให้ทาน
ของสัตบุรุษว่า ท่านทําอย่างไรบ้าง คือในขณะให้ทาน ท่านจะ
ให้ด้วยศรัทธา ไม่ได้ให้ทานเพราะเห็นแก่หน้าหรือถูกบังคับให้ทํา
ให้ทานโดยเคารพ มีความนอบน้อมในทาน ไม่มีอหังการว่า
ทรัพย์นี้เป็นของเรา เพราะฉะนั้นผู้มารับทรัพย์หรือรับบริจาค
จากเราต้องนอบน้อมเราผู้เป็นเจ้าของ แต่กลับให้ความนอบน้อม
ต่อผู้ที่มารับของของตน
สัตบุรุษจะให้ทานโดยกาลอันควร ดูช่วงจังหวะเวลาที่
เหมาะสมว่าช่วงไหนจะถวายภัตตาหาร ช่วงไหนควรถวาย
นํ้าปานะ ช่วงไหนควรถวายผ้าไตรจีวร หรือเครื่องสมณบริขาร
ที่เหมาะต่อสมณบริโภค สัตบุรุษผู้ให้ทานด้วยจิตอนุเคราะห์
ไม่ได้มุ่งอยากเด่นอยากดัง แต่อยากได้บุญเป็นหลัก และ
ประการสุดท้าย สัตบุรุษจะให้ทานโดยไม่กระทบตนและผู้อื่น
คือตนเองก็ไม่เดือดร้อน เพราะให้แล้วไม่คิดอยากเอาคืน ตัดใจ
เหมือนตายจาก ผู้รับก็สบายใจ มีความสุขใจที่ได้มารับจากเรา
เมื่อสัตบุรุษให้ทานถูกหลักวิชาทั้ง ๕ ประการนี้แล้ว เรา
มาดูผลบุญที่จะบังเกิดขึ้น ว่าให้ทานด้วยศรัทธา เมื่อถึงคราว
บุญส่งผล จะให้อิฏฐผลที่น่าปลื้มปีติใจอย่างไรบ้าง พระพุทธ