ข้อความต้นฉบับในหน้า
Boประช
ส อ น ต น ส อ น คนให้ถึงธ
៥១៨
ถึงธรรม
สามารถตรองตามให้เห็นจริงตามที่พระองค์ทรงแสดงได้ และ
ประการสุดท้าย ทรงแสดงธรรมเป็นอัศจรรย์ คือ ผู้ปฏิบัติตาม
ธรรมนั้นจะได้รับประโยชน์ตามสมควรแก่การปฏิบัติ ฉะนั้น
พระพุทธองค์จึงแบ่งคนออกเป็น ๔ จําพวกด้วยกัน คือ พวกที
รู้ธรรมแต่ไม่ประพฤติธรรม พวกที่ไม่รู้ธรรมแต่ประพฤติธรรม
อีกพวกหนึ่งทั้งไม่รู้ธรรมทั้งไม่ประพฤติธรรม พวกสุดท้าย
ทั้งรู้ธรรมและประพฤติธรรมด้วย
*เหมือนในสมัยพุทธกาล พระบรมศาสดาตรัสกับภิกษุ
ทั้งหลายว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกมีอยู่ ๔ ประเภทด้วย
กัน คือ ประเภทแรก วลาหกได้แต่คำรามแต่ไม่ตกลงมา
ประเภทที่สอง วลาหกตกลงมาแต่ไม่ได้คำราม ประเภทที่สาม
วลาหกทั้งไม่คำรามทั้งไม่ตกลงมา และประเภทสุดท้าย วลาหก
ทั้งคํารามทั้งตกลงมาด้วย วลาหกทั้ง ๔ ประเภท เปรียบดัง
บุคคล ๔ จำพวก คือ บุคคลพวกที่หนึ่ง ดุจวลาหกคำรามแต่
ไม่ตกลงมา บุคคลพวกที่สอง ดุจวลาหกตกลงมาแต่ไม่คําราม
บุคคลพวกที่สาม ดุจวลาหกทั้งไม่คำรามทั้งไม่ตกลงมา และ
บุคคลพวกสุดท้าย ดุจวลาหกทั้งคำรามทั้งตกลงมาด้วย
บุคคลดุจวลาหกคํารามแต่ไม่ตก คือ บุคคลบางคนในโลกนี้
*มก. ทุติยวลาหกสูตร เล่ม ๓๕ หน้า ๒๔๒