ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
มหาทานบารมีแห่งยุค
๒๕๖
สว่างไสวรุ่งโรจน์กว่ารัศมีของเทวดาทั้งหลาย เทวดาที่มีศักดิ์ใหญ่
มีบุญมาก จะได้นั่งอยู่แถวหน้า ส่วนผู้ที่บุญน้อยกว่าก็จะถอยร่น
ออกไปเรื่อยๆ
สมัยนั้น อังกุรเทพบุตรซึ่งเคยนั่งอยู่ด้านหน้า ต้องถอยร่น
ไปตามกำลังบุญ นั่งอยู่ไกลถึง ๑๒ โยชน์ ส่วนอินทกเทพบุตร
นั่งอยู่ที่เดิมใกล้ๆ กับพระพุทธองค์ พระพุทธเจ้าได้ตรัสถาม
อังกุรเทพบุตรว่า “อังกุระ เธอทำแถวเตาไฟยาว ๑๒ โยชน์ ได้
ให้ทานเป็นอันมากในกาลประมาณหมื่นปี บัดนี้เธอนั่งอยู่ไกลตั้ง
๑๒ โยชน์ ซึ่งไกลกว่าเทพบุตรทั้งหมด ไฉนเธอจึงนั่งอยู่ไกลนัก
อังกุรเทพบุตรกราบทูลว่า “ทานของข้าพระองค์ว่างเปล่า
จากทักขิไณยบุคคล ทำให้ได้ผลน้อยเหลือเกิน พระเจ้าข้า”
“อังกุระ การเลือกเสียก่อนแล้วจึงให้ทานนั้นย่อมมีผลมาก
ดุจพืชที่เขาหว่านลงในนาดี แต่เธอหาได้ทำอย่างนั้นไม่ เหตุนั้น
ทานของเธอจึงไม่มีผลมาก”
จะเห็นได้ว่า แม้บางครั้งแม้เรามีกุศลศรัทธาอยากจะให้
ทาน ทรัพย์ก็พร้อม ศรัทธาก็เต็มเปี่ยม แต่ถ้าไม่มีทักขิไณยบุคคล
ผลบุญที่เกิดขึ้นก็เหมือนหว่านพืชลงในนาดอน ผลที่เกิดขึ้นได้
ผลไม่เต็มที่สมกับที่ได้ทุ่มเทลงไป ดังนั้นการมีโอกาสถวายทาน