ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชll
เวลาอันทรงคุณค่ายิ่ง
๓๗๖
บุตรคนเดียวจะเป็นไรไป เราจะให้บุตรท่านถึง ๔ คน แต่บุตร
เหล่านี้ไม่ปรารถนาที่จะครองสมบัติ
จะออกบวชกันหมด”
ปุโรหิตดีใจมากที่จะได้บุตร จึงเลิกความคิดที่จะโค่นต้นไทรทิ้ง
หลังจากนั้นเทพบุตรทั้งสี่ได้ลงมาเกิดตามลำดับ ปุโรหิต
ตั้งชื่อคนแรกว่า หัตถิปาละ และมอบให้นายควาญช้างเลี้ยงไว้
เพื่อป้องกันไม่ให้ออกบวช คนที่ ๒ ตั้งชื่อว่า อัสสปาละ มอบให้
คนเลี้ยงม้าเป็นผู้ดูแล คนที่ ๓ ตั้งชื่อว่า โคปาละ มอบให้คนเลี้ยง
โคเป็นผู้ดูแล คนที่ ๔ ตั้งชื่อว่า อชปาละ มอบให้คนเลี้ยงแพะ
เป็นผู้ดูแล ปุโรหิตได้อาราธนานักบวชทั้งหมดออกจากแว่นแคว้น
เพื่อไม่ให้บุตรเห็นบุคคลเหล่านั้นด้วยเกรงจะตามออกบวชกันหมด
ต่อมาเมื่อทั้งสี่เติบโตเป็นหนุ่ม พระราชาและปุโรหิตใคร่
จะทดสอบว่า เมื่อทั้งสี่เห็นนักบวชแล้ว จะรู้สึกอย่างไร ทั้งสอง
จึงได้ปลอมตัวเป็นฤๅษีเดินผ่านโรงช้าง ทันทีที่หัตถิปาละเห็น
เขาบังเกิดความเลื่อมใส รีบเข้ามากราบไหว้ และน้อมนำ
สิ่งของมีค่าเพื่อให้ทาน จนฤาษีปลอมต้องรีบแสดงตัวว่า เป็น
พระราชาและปุโรหิตผู้เป็นบิดาของหัตถิปาละ พลางแนะนำให้
บุตรรีบศึกษาหาความรู้และอยู่สืบราชสมบัติต่อไป แต่หัตถิปาละ
ตอบปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า “วิชาในทางโลกเป็นของไม่จริง
ลาภสักการะเป็นของไม่เที่ยง สัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญการ
ไม่ถือมั่นเพื่อความหลุดพ้น”