ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ -
- หน้าที่ 41
สิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ทำสิ่งเคยฟังแล้วให้แจ่มแจ้ง ข้ามความสงสัยเสีย
ได้ ทำความเห็นให้ตรง ทำจิตใจให้ผ่องใสได้ หรือบุคคลศึกษา
ตามกัลยาณมิตรใดอยู่ ย่อมเจริญด้วยศรัทธา ย่อมเจริญด้วยศีล
สุตะ จาคะ ปัญญา กัลยาณมิตรนี้เรียกว่า อุปนิสัยโคจร
[ อารักขโคจร ]
อารักขโคจรเป็นไฉน ? ภิกษุในพระศาสนานี้ เข้าไปสู่ละแวก
บ้าน เดินไปตามถนน มีจักษุทอดลง มองดูชั่วแอก สำรวมไป ไม่
แลดูพลช้าง ไม่แลดูพลม้า ไม่แลดูพลรถ ไม่แลดูพลราบ ไม่แลดู
หญิง ไม่แลดูชาย ไม่แหงนดู ไม่ก้มดู ไม่เหลียวลอกแลกเดินไป
นี้เรียกว่า อารักขโคจร.
[ อุปนิพันธโคจร ]
อุปนิพันธโคจรเป็นไฉน ? อุปนิพันธโคจร ได้แก่สติปัฏฐาน ๔ ซึ่ง
เป็นที่นำจิตเข้าไปผูกไว้ สมดังคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า "(ถาม
ว่า) ดูกรภิกษุทั้งหลาย อะไรเล่าเป็นโคจรของภิกษุ ? (ตอบว่า)
ธรรมที่เป็นวิสัยของบิดาของตน ธรรมนี้คืออะไร ? คือสติปัฏฐาน ๔
9.
มหาฎีกาแก้อรรถศัพท์นี้ว่า สีลาตีน คุณาน อุปนิสสยภูโต โคจิโร อุปนิสสยโคจโร
"โคจรอันเป็นที่เข้าอาศัยแห่งคุณทั้งหลายมีศีลเป็นต้น ชื่อว่าอุปนิสัยโคจร" แก้อย่างนั้นไม่
สมกับบาลี ในนั้นท่านแสดงว่า โคจร (คือกัลยาณมิตร) เป็นที่อาศัยของบุคคล บุคคลได้อาศัย
โคจรนั้นแล้วจึงได้อานิสงส์ เจริญด้วยสัทธาทิคุณ
๒. มหาฎีกาแก้อรรถศัพท์นี้ว่า สติสงขาโต อารกฺขภูโตเอว โคจโร อารกฺขโคจโร "โคจร
อันเป็นอารักข์ กล่าวคือสตินั่นแล ชื่อว่าอารักขโคจร"
๓. ส. มหาวาร. ๑๕/๑๕๘. มหาฎีกาแก้อรรถตรงนี้ว่า สโก เปตติโก วิสโยติ อตฺตโน ปิตุ
สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺตโก เตน ทิฏโฐ ทสฺสิโต จ วิสโย - "สามบทว่า สโก เปตติโก