ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑ - หน้าที่ 99
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ -
นั้นเล่า แม้เหล่าเทวดาก็ย่อมชม ถึงพรหมก็
สรรเสริญและ.
ส่วนศีลของพระเสขะทั้งหลาย บัณฑิตพึงทราบว่าเป็นอปรามัฏฐ
ปาริสุทธิศีล เพราะเป็นศีลไม่ถูกแตะต้องด้วยอำนาจทิฏฐิ อีกอย่างหนึ่ง
ศีลที่ไม่ถูกแตะต้องด้วยอำนาจราคะ” ของปุถุชนทั้งหลายก็พึงทราบว่า
เป็นอปรามัฏฐปาริสุทธิศีล
เหมือนศีลของพระติสสเถระผู้บุตรของ
กุฎมพี่ฉะนั้น ท่านองค์นั้นประสงค์จะอาศัยศีลเห็นปานนั้น แล้วตั้งอยู่
ในพระอรหัต จึงกล่าวกะพวกไพรีทั้งหลายว่า
"เราทำลายขาทั้งสองข้าง ทำสัญญาแก่ท่าน
ทั้งหลาย เราเกลียดอายความตายอย่างคนมีราคะ
เราคิดอย่างนี้แล้ว จึงพิจารณา (สังขาร) โดย
แยบคาย ก็ได้บรรลุพระอรหัตเมื่ออรุณขึ้นพอดี""
๑. องฺ. จตุกฺก. ๒/๑๙.
๒. ภววเสน แต่ฉบับพม่าเป็น ราคาเสน ในมหาฎีกาหน้า ๑๑๔ ข้อ ๕๕ ก็อย่างนั้น คำของ
พระติสสเถระในคาถาก็มี สราคมรณ์ พิจารณาความก็น่าจะเป็นอย่างนั้นด้วย จึงตกลงแก้เป็น
ราควเสน.
๓.
เรื่องพระติสสเถระนี้ พบเล่าไว้ในอรรถกถามหาสติปัฏฐานสูตรว่า ท่านละสมบัติออกบวชแล้ว
ไปอยู่ในป่า น้องสะใภ้จ้างพวกโจรให้ไปปลงชีวิตท่าน พวกโจรไปล้อมท่านไว้ ท่านถามทราบว่า
เขาจะมาปลงชีวิตท่าน ท่านจึงพูดขอชีวิตไว้สักคืนหนึ่ง โดยมีประกันว่าไม่หนี พวกโจรท้วงว่า
อยู่ในป่าเช่นนี้ จะไปหาประกันได้ที่ไหน พระเถระจึงคว้าเอาก้อนหินขนาดเขื่องก้อนหนึ่งใกล้ ๆ นั้น
ทุบขาตัวเองจนกระดูกขาแตกทั้ง ๒ ข้าง แล้วถามพวกโจรว่า "พอใจหรือยังล่ะ ประกันอย่างนี้"
พวกโจรเห็นเช่นนั้นก็ยอมทุเลาให้ท่าน พากันไปก่อไฟพักนอนอยู่ทางต้นที่จงกรม พระเถระ
ข่ม
ทุกขเวทนา พิจารณาดูศีลของตน เห็นศีลบริสุทธิ์ดีก็เกิดปปีติปราโมทย์ เจริญวิปัสสนาต่อไป ทำ
สมณธรรมอยู่ตลอดคืน พออรุณขึ้นก็ได้บรรลุพระอรหัต จึงเปล่งอุทานคาถานั้นขึ้น
ปาฐะในคาถาต่างกันบ้าง คือ สญฺญมิสสามิ ในอรรถกถาสติปัฏฐานเป็น สญฺญาสุสาม