ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 27
ย่อมเป็นคุณนำภพวิเศษมาให้ และเป็นเครื่องสนับสนุนการออกจากภพ
ด้วย ดังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า "วินัย (ย่อมมี) เพื่อประโยชน์
แก่สังวร สังวรเพื่อประโยชน์แก่อวิปฏิสาร อวิปฏิสารเพื่อประโยชน์แก่
ปราโมทย์ ปราโมทย์เพื่อประโยชน์แก่ปิติ ปีติเพื่อประโยชน์แก่
ปัสสิทธิ ปัสสิทธิเพื่อประโยชน์แก่สุข สุขเพื่อประโยชน์แก่สมาธิ
สมาธิเพื่อประโยชน์แก่ยถาภูตญาณทัสสนะ ยถาภูตญาณทัสสนะเพื่อ
ประโยชน์แก่นิพพิทา นิพพิทาเพื่อประโยชน์แก่วิราคะ วิราคะเพื่อ
ประโยชน์แก่วิมุตติ วิมุตติเพื่อประโยชน์แก่วิมุตติญาณทัสสนะ วิมุตติ
ญาณทัสสนะเพื่อประโยชน์แก่อนุปาทาปรินิพพาน การพูดกัน การ
ปรึกษากัน การเข้านั่งใกล้กัน การเงี่ยโสต (ลงสดับ) (ทุกอย่าง)
มีนั่นเป็นประโยชน์ นั่นคืออะไร นั่นคือความพ้นแห่งจิต เพราะ
ไม่ถือมั่น" ดังนี้ ส่วนโลกุตตรศีล ย่อมเป็นคุณนำมาซึ่งการสลัด
ออกจากภพ และเป็นภูมิแห่งปัจจเวกขณญาณแล บัณฑิตพึงทราบ
ศีลเป็น ๒ อย่าง โดยเป็นโลกิยศีลและเป็นโลกุตตรศีล ด้วย
ประการฉะนี้.
(ติกะ (ศีลหมวด ๓) ที่ ๑]
ในติกะทั้งหลาย พึงทราบวินิจฉัยในติกะที่ ๑ ดังนี้ ศีลที่บุคคล
ประพฤติด้วยฉันทะ จิตตะ วิริยะ วิมังสา” อย่างทราม ชื่อว่า
หีนศีล ที่ประพฤติด้วยฉันทะเป็นต้นปานกลาง ชื่อว่ามัชฌิมศีล ที่
๑. วิ. ป. ๔/๔๐๖.
๒. อย่างไรท่านจึงเรียงจิตตะไว้หน้าวิริยะ ?