ข้อความต้นฉบับในหน้า
๗. ปาฏิปทิก
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 139
๘. อาคนฺตุกภัตต์
๕. คมิกภัตต์
๑๐. คิลานภตฺติ
๑.
(ภัตรถวายประจำวันปาฏิบท)
(ภัตรเพื่อภิกษุอาคันตุกะ)
(ภัตรเพื่อภิกษุผู้เตรียมเดินทาง)
(ภัตรเพื่อภิกษุผู้อาพาธ)
คิลานุปฏฐากภัตต์ (ภัตรเพื่อผู้อุปัฏฐากภิกษุอาพาธ)
๑๒. วิหารภตฺติ
๑๓. ธุรกตต์
(ภัตรประจำวิหาร)
(ภัตรประจำวิหาร)
๑๔. วารภตฺต์ (ภัตรที่เขาถวายโดยวาระ คือแบ่งเวรกันถวาย)
แต่ภัตรเหล่าใด ถ้าทายกไม่ได้กล่าว (ออกชื่อ) โดยนัยเป็นต้นว่า
"ขอท่านทั้งหลายจงรับสังฆภัตร" ดังนี้ (เป็นแต่) กล่าว่า "ขอสงฆ์
จงรับภิกษาในเรือนของข้าพเจ้า" (หรือว่า) "แม้ท่านทั้งหลายจงรับ
ภิกษา" ดังนี้แล้วถวายไซร้ ปิณฑปาติกภิกษุจะยินดีภัตรเหล่านั้นก็ควร
นิรามิสสลาก (สลากที่ไม่มีอามิส) แต่สงฆ์ก็ดี” ภัตรที่เขาหุง (ถวาย)
Q.
มหาฎีกาแก้ไว้ว่า "ธุรเคเหเอว เปตวา ทาตพุพภัตต์ ธุรกตต์ - ภัตรที่เขาจึง
ตั้งถวายที่เรือนใกล้เคียงนั่นแล ชื่อธุรภัตร" ถ้าแก้และแปลอย่างนี้ถูก ก็ยังจะต้องหาทาง
เข้าใจต่อไปอีกว่า ลักษณาการภัตรชนิดนี้เป็นอย่างไร อาจเป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้มีศรัทธามา
ปลูกบ้านอยู่ใกล้วัด เพื่อมีโอกาสทำบุญได้สะดวก ๆ บ้านอย่างนี้เรียกว่าธุรเคหะ ท่านผู้มี
ศรัทธาเจ้าของบ้านนั้น จัดอาหารเตรียมไว้สำหรับภิกษุในวัดเป็นประจำ ท่านองค์ไหนเข้าไป
เป็นไม่ผิดหวัง เรียกว่า ธุรภัตร ?
เพราะเข้าใจยากอย่างนี้ จึงมีผู้คิดว่าน่าจะเป็น ธุวภัตต์
ซึ่งแปลได้ง่าย ๆ ว่าภัตรประจำ
๒. นิรามิสสลากา มหาฎีกาท่านไม่วินิจฉัยว่าได้แก่อะไร เป็นแต่นำเอามติของเกจิอาจารย์
มากล่าวไว้ว่า ลางท่านว่าได้แก่สลากของอย่างอื่นมีเภสัชเป็นต้น ลางท่านว่าได้แก่สลาก
(ของกิน) ที่ไม่ใช่ยาวกาลิก ทั้งสองมติก็คงลงกันว่า ไม่ใช่สลากภัตนั่นเอง จึงมีปัญหาว่า
เมื่อไม่ใช่ภัตร จะกล่าวในนิเทศนี้เพื่ออะไรเล่า คำข้างหลังที่กล่าวเป็นคู่กันก็ยันอยู่ว่าเป็นภัตร