ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 131
คน
(ผ้านั้น) เพื่อ (ปะจีวร) ที่ชำรุดเท่านั้น คนทั้งหลายที่พวกหมอผี
ให้อาบน้ำดำเกล้าแล้ว (ผลัด) ทิ้งผ้าอันใดไป ด้วยสำคัญว่า ผ้า
(ที่ผลัด) นั้น เป็นกาลกัณณี ผ้า (ที่เขาผลัดทิ้งไป) นั้น ชื่อ
นหานโจฬะ ผ้าเก่า ๆ ที่เขาทิ้งไว้ตามท่าอาบน้ำ ชื่อว่า ติตถโจฬะ
คนทั้งหลายที่ไปป่าช้ากลับมาอาบน้ำแล้วทิ้งผ้าใดเสีย ผ้านั้นชื่อว่า
คตปัจจาคตะ ผ้าที่ถูกไฟไหม้บางส่วน ชื่อว่า อัคคิทัฑฒะ
ทั้งหลายย่อมทิ้งผ้าที่ไฟไหม้นั้นเสียเหมือนกัน ผ้า (๕ อย่าง) มี
ผ้าที่ชื่อว่าโคขายิตะเป็นต้น ชัดอยู่แล้ว แม้ผ้าเช่นนั้น ๆ คนทั้งหลาย
ย่อมทิ้งเสียเหมือนกัน ผ้าที่คนทั้งหลายเมื่อจะขึ้นเรือผูกเป็นธงไว้
แล้วจึงขึ้นไป ชื่อว่า ธชาหฏะ ภิกษุจะถือเอาผ้านั้นเมื่อสุดสายตาคน
เหล่านั้นไปก็ควร แม้ผ้าที่เขาผูกเป็นธงปักไว้ในยุทธภูมิ เมื่อทหาร
ทั้งสองฝ่ายไปแล้ว ภิกษุจะถือเอาผ้านั้นก็ควร ผ้าที่เขาห่มจอมปลวก
ทำพลีกรรม ชื่อว่า ถูปจีวระ ผ้าเป็นของภิกษุด้วยกัน ชื่อว่า
สมณจีวระ ผ้าที่เขาทิ้งไว้ในสถานที่ราชาภิเษก ชื่อว่า อาภิเสกิกะ
จีวรของเอหิภิกษุ ชื่อว่า อิทธิมยะ ผ้าที่ตกอยู่ในระหว่างทาง ชื่อ
*
ชิณณกฎฐานตฺถเมว ก็ไม่มีคำไหนที่จะแปลว่า "ปะ" ได้ แต่เห็นว่าความบ่งไปทางนั้น
ก็ต้องแปลเอาความไปอย่างนั้น หากว่าแปลอย่างนี้เป็นถูก ก็ยังมีปัญหาน่าคิดต่อไปว่า เพราะเหตุไร
ภิกษุผู้ถือเอาผ้านั้นไป จึงไม่ใช้ผ้านั้นทำจีวร ใช้เพียงเป็นผ้าสำหรับปะจีวรเท่านั้น เหตุน่าจะเป็น
ดังนี้
ก. ผ้าผืนนั้นนับเป็นผ้าบังสุกุลก็จริง แต่ราวแพงนัก ทำเป็นจีวรแล้วจะใช้ไม่สนิทใจ
และอาจถูกขโมยโดยง่ายด้วย
ข. ผ้าผืนนั้นขนาดไม่พอทำจีวร
จะไปแสวงหาผ้าราคาเป็นแสนอย่างนั้นมาเพิ่มเติม
ได้ที่ไหนง่ายๆ เล่า จึงป่วยการที่จะเก็บรอไว้ ใช้ประโยชน์อย่างอื่นเสียดีกว่า