ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 30
เป็นวิสุทธศีลเป็นต้น ด้วยประการฉะนี้
[ ติกะที่ ๕ ]
พึงทราบวินิจฉัยในติกะที่ ๕ ต่อไป ศีลที่สัมปยุตด้วยอริยมรรค
ที่สัมปยุตด้วยอรหัตผล เป็น
က
๔ และสามัญญผล ๓ เป็นเสกขศีล
อเลขศีล ที่เหลือเป็นเนวเสขานาเลขศีล พึงทราบศีลเป็น ๓ อย่าง
โดยเป็นเสขศีลเป็นต้น ด้วยประการฉะนี้ แต่ในคัมภีร์ปฏิสัมภิทา
ท่านพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรกล่าวว่า "เพราะเหตุว่าแม้ปกติของ
สัตว์นั้น ๆ ในโลก ก็เรียกว่าศีล ซึ่งเขาหมายกล่าวกันอยู่ว่า อย
สุขสีโล คนนี้มีปกติเป็นสุข อย ทุกขสีโล คนนี้มีปกติเป็นทุกข์
อย กลหสีโล คนนี้มีปกติทะเลาะ อย มณฑนสีโล คนนี้มีปกติ
แต่งตัว" ดังนี้ โดยปริยายนั้น ศีลจึงมี ๓ อย่าง คือกุศลศีล อกุศล
ศีล อัพพยากตศีล ศีลเป็น ๓ โดยเป็นกุศลศีลเป็นต้นก็มีอย่างนี้แล ใน
ศีล ๓ อย่างนั้น อกุศลศีล ย่อมไม่สมกับอาการแม้อย่างเดียว ใน
อาการทั้งหลายมีลักษณะเป็นต้นแห่งศีลที่ประสงค์ในอรรถนี้
က
เพราะ
เหตุนั้น จึงไม่นับเข้าในสีลนิเทศนี้ เพราะฉะนั้น พึงทราบความ
ที่ศีลนั้นเป็น ๓ อย่าง โดยนัยที่กล่าวแล้วเท่านั้น
[ จตุกกะ (ศีลหมวด ๔) ที่ ๑]
ในจตุกกะทั้งหลาย พึงทราบวินิจฉัยในจตุกกะที่ ๑ (ดัง
๑. วิสุทธาทิวเสน ผิดหลักการใช้อาทิ เข้าใจว่าจะคลาดเคลื่อน ที่ถูกจะเป็น วิสุท
ธาทิวเสน.
๒. มหาฎีกาว่า คำว่าศีลที่เหลือนี้ ได้แก่โลกิยศีลทั้งหมด