ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 79
อนึ่ง อันภิกษุผู้บำเพ็ญอินทรียสังวร จึงเป็นเช่นพระจิตตคุตต
เถระ ผู้อยู่ในถ้ำใหญ่ ชื่อกรัณฑกะ และพระมหามิตตเถระผู้อยู่ใน
มหาวิหารชื่อโจรกะ.
[ เรื่องพระจิตตคุตตเถระ ]
ได้ยินว่า ในถ้ำใหญ่กรัณฑกะ มีจิตรกรรมเรื่องอภิเนษกรมณ์
แห่งพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ เป็นที่น่าพึงใจ ภิกษุหลายรูปเดินเที่ยว
ดูเสนาสนะ เห็นจิตรกรรม (นั้น) เข้า ก็กล่าว (ชมกะพระเถระ)
ว่า "จิตรกรรม (นั้น) น่ารื่นรมย์ใจ" พระเถระกล่าวว่า "อาวุโส
ทั้งหลาย เมื่อเราอยู่ในถ้ำมากว่า ๖๐ ปี เรายังหารู้ไม่ว่าจิตรกรรม
มีหรือไม่มีเลย วันนี้ อาศัยท่านทั้งหลายผู้ใช้ตา จึงรู้เดี๋ยวนี้เอง"
นัยว่า พระเถระอยู่มานานถึงเท่านี้ ยังไม่เคยเหลือบแหงนดูถ้ำเลย
อนึ่ง ที่ใกล้ประตูถ้ำของท่าน มีไม้กากะทิงอยู่ต้นหนึ่งด้วย แม้ไม้ต้นนั้น
พระเถระก็ไม่เคยแหงนดูเบื้องบนเลย ต่อได้เห็นเกสรร่วงลงมาที่พื้นดิน
ตามฤดูปี จึงรู้ว่ามันมีดอก พระราชาได้ทรงสดับคุณสมบัติของพระเถระ
มีพระประสงค์จะนมัสการ ทรงส่ง (ราชบุรุษไปนิมนต์) ถึง ๓ ครั้ง
เมื่อพระเถระไม่มา จึงตรัสสั่งให้รัดกันของพวกหญิงลูกอ่อนในหมู่บ้าน
นั้นแล้วให้ประทับตราพระราชลัญจกร (ที่รัดผ้ากัน) มีพระราชโองการ
ไว้ว่า "พวกทารกอย่าได้ (ดื่ม) น้ำนม ตลอดเวลาที่พระเถระยัง
ไม่มา" พระเถระจึงยอมไปสู่มหาคาม เพราะความเอ็นดูพวกทารก
พระราชาทรงสดับ (ข่าวนั้น) แล้ว ตรัสสั่ง (ราชบุรุษ) ว่า
แน่ะพนาย ท่านทั้งหลายจงไปนิมนต์พระเถระเข้ามา เราจักรับศีล"