ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 81
สะดุ้งกลัว จึงทอดจักษุ แลดูชั่วแอก อย่า
พึงไปสู่อำนาจขิงจิตที่หลุกหลิกเหมือนลิงป่า,
[ พระมหามิตตเถระ ]
แต่ ก
ฝ่ายหนึ่ง โรคฝีมีพิษเกิดขึ้นแก่โยมหญิงของพระมหามิตตเถระ
แม้ธิดาของนางก็บวชในสำนักภิกษุณี นางจึงกล่าวกะภิกษุณีธิดานั้นว่า
"ไปเถิด แม่คุณ เธอจงไปสู่สำนักพี่ชาย บอกความที่โยมไม่สบาย
แล้วนำยามาเถิด" ภิกษุณีนั้นไปบอกแล้ว พระเถระกล่าวว่า "ฉัน
ไม่รู้จะเก็บยาต่าง ๆ มียารากไม้เป็นต้นมาต้มเป็นยาให้ดอก
บอกยาแก่เธอ (ดังนี้ อหิ ยโต ปพฺพชิ ฯเปฯ มาตุยา เม ผาสุ
โหตุ) "เรา จำเดิมแก่กาลที่บวชแล้ว ไม่เคยมีจิตสหรคตด้วยโลภ
แล้วทำลายอินทรีย์ทั้งหลาย แลดูรูปที่เป็นวิสภาคเลย ด้วยคำสัตย์นี้ ขอ
ความผาสุกจงมีแก่โยมหญิงของเราเถิด" เธอ (กลับ) ไปเถิด จง
ว่าคำ (อหิ ยโต ฯ เป ฯ) ที่เรากล่าวแล้วนี้ลูบสรีระของอุบาสิกาเถิด"
ภิกษุณีนั้น (กลับ) ไปแจ้งเนื้อความนั้นแล้ว ได้กระทำตามสั่ง
ทันใดนั้นเอง ฝีของอุบาสิกาก็ฝ่อหายไป เหมือนฟองน้ำแตกหายไป
ฉะนั้น นางลุกขึ้นแล้วเปล่งวาจาแสดงความชื่นบานออกมาว่า "ถ้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงพระชนม์อยู่ไซร้ ไฉนพระองค์จะไม่พึง
ทรงลูบศีรษะของภิกษุผู้เช่นดังบุตรของเรา ด้วยพระหัตถ์อันมีลาย
วิจิตรเล่า" ดังนี้. เหตุนั้น
แม้บุคคลอื่น ผู้มีความสำคัญว่า (ตน)
เป็นลูกสกุล
ได้บวชในพระศาสนาแล้ว