ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 38
ผ้ากาสาวพัสตร์ มีกลิ่นอายฤษีเข้าออก” มุ่งประโยชน์ (ให้) ฯลฯ มุ่ง
ธรรมที่เกษมจากโยคะ (ให้) แก่พวกภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ภิกษุผู้ไปเข้าจนถึง เป็นผู้เข้ามาจนถึง เป็นผู้
นี้เรียกว่าโคจร
ปฏิบัติจนถึง เป็นผู้ประกอบพร้อมด้วยอาจาระนี้ด้วย” ด้วยโคจรนี้ด้วย
โดยนัยที่กล่าวมานี้ เพราะเหตุนั้น ท่านจึงเรียกว่า "อาจารโคจร-
สมฺปนฺโน" (ผู้ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร)
[อนาจาระ ๒ อย่าง
ในข้อนี้ บัณฑิตพึงทราบอาจาระและโคจร แม้โดยนัย (ต่อไป)
นี้อีกนัยหนึ่ง ก็อนาจาระมี ๒ อย่าง คือ อนาจาระทางกาย ๑ อนาจาระ
ทางวาจา ๑ ใน ๒ อย่างนั้น อนาจาระทางกายเป็นไฉน ? ภิกษุลางรูป
Q.
อิสวาตปฏิวาตาน มหาฎีกาแก้ว่า ตระกูลเช่นนั้น ย่อมมีพวกฤษคือภิกษุภิกษุณีเข้าออกกัน
อยู่เสมอ จึงมีลมจีวรและลมสรีระที่เกิดแต่การกู้แขนเหยียดแขนเป็นต้น ของท่านพวกฤษีเหล่านั้น
กระพืออยู่เรื่อยๆ
น่าจะเห็นว่า วาตศัพท์ในที่นี้ โดยความก็หมายถึงกลิ่นนั่นเอง
เพียงลมจีวรและลมสรีระของท่าน
เหล่านั้น คงไม่มีอะไรมากจนควรเป็นที่สังเกต แต่กลิ่นที่ฟุ้งออกมาแต่จีวรและสรีระของท่านเหล่า
นั้นควรจะได้โวหารว่า "อิสวาต" ละ กลิ่นเมื่อท่านเข้าสู่บ้านเป็น วาต กลิ่นเมื่อท่านออกจาก
บ้านเป็น ปฏิวาต หรือเมื่อเดินสวนกันเป็นปฏิวาต แต่มหาฎีกาแก้อรรถปฏิวาต เป็น ปวายต
ถ้า
เช่นนั้นก็แปลว่า "ฟังไปด้วยกลิ่นพระฤษี" ฟังได้ดี
๒. อภิ.ว. ๓๕ ๓๓๑. อุเปโต โหติ สมเปโต อุปาคโต สมฺปาคโต อุปปันโน สมุปปนฺโน
สมนาคโต ศัพท์เหล่านี้ความเดียวกันทั้งนั้น บาลีท่านชอบเก็บศัพท์ที่มีความเดียวกันมาเรียง
ไว้ด้วยกันมาก ๆ น่าจะมิได้ประสงค์จะแปลหมดทุกศัพท์ เพราะยิ่งแปลละเอียดจนหมด ก็ยิ่ง
ไม่เป็นภาษา
ได้
น่าจะมีประสงค์ว่า ใครแปลศัพท์หน้าไม่ได้ ก็อาจแปลศัพท์หลังได้ หรือแปล
ศัพท์ใดศัพท์หนึ่งก็ใช้ได้ แต่เราจะทิ้งศัพท์ของท่านเฉย ๆ ก็อย่างไรอยู่ จึงหาทางแปล โดยรวม
เป็นคู่ ๆ เช่นนั้น
คู่ อุเปโต แปลว่า เข้าไปจนถึง คู่ อุปาคโต แปลว่า เข้ามาจนถึง คู่