ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ -
- หน้าที่ 33
มีพระมหากัสสปะเป็นอาทิ และของพระโพธิสัตว์ ชื่อว่าปุพพเหตุกศีล
(ศีลมีเหตุอันสำเร็จมาแต่ในชาติปางก่อน ๆ) พึงทราบศีลเป็น ๔ อย่าง
โดยปกติศีลเป็นต้น ด้วยประการฉะนี้
[ จตุกกะที่ ๔]
พึงทราบวินิจฉัยในจตุกกะที่ ๔ ต่อไป
[ ปาฏิโมกขสังวรศีล ]
ศีลใดที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า "ภิกษุใดในศาสานนี้เป็นผู้
สำรวมด้วยปาฏิโมกขสังวรอยู่ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปกติ
เห็นเป็นภัยในโทษมาตรว่าเล็กน้อย
สมาทานศึกาาอยู่ในสิกขาบท
ทั้งหลาย" ดังนี้ ศีลนี้ชื่อปาฏิโมกขสังวรศีล
[ อินทรียสังวรศีล ]
ส่วนศีลใดที่ตรัสไว้ว่า "ภิกษุนั้นเห็นรูปด้วยจักษุแล้ว เป็นผู้ไม่
ถือเอานิมิต ไม่ถือเอาอนุพยัญชนะ” อภิชฌาโทมนัสทั้งหลาย ธรรม
ทั้งหลายอันเป็นบาปเป็นกุศล จะพึงไหลไปตามภิกษุผู้ไม่สำรวม
จักขุนทรีย์อยู่ เพราะเหตุไม่สำรวมจักขุนทรีย์อันใด ย่อมปฏิบัติเพื่อปิด
กั้นเสียซึ่งจักขุนทรีย์นั้น รักษาจักขุนทรีย์ ถึงความสำรวมในจักขุนทรีย์
เธอฟังเสียงด้วยโสตะแล้ว ฯลฯ ดมกลิ่นด้วยฆานะแล้ว ฯลฯ ลิ้ม
รสด้วยชิวหาแล้ว ฯลฯ ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกายแล้ว ฯลฯ รู้
ธรรมารมณ์ด้วยมนะแล้ว
๑. อภ. ว. ๒๕/๓๒๘.
ไม่ถือเอานิมิต ไม่ถือเอาอนุพยัญชนะ
๒. เราเคยแปลกันว่า ไม่ถือโดยนิมิต ไม่ถือโดยอนุพยัญชนะ แต่ในคัมภีร์นี้ท่านให้แปลว่าไม่ถือ
ซึ่งนิมิต ไม่ถือซึ่งอนุพยัญชนะ ดังจะปรากฏในตอนแก้อรรถอินทรียสังวรศีล