ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๑ - หน้าที่ 23
คำในบททั้ง ๒ นั้น บุคคลทั้งหลายย่อมประพฤติในศีลนั้น คือดำเนิน
(กายวาจา) ไป โดยความเป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ในศีลทั้งหลาย เพราะ
เหตุนั้น ศีลนั้นจึงชื่อว่า จาริตตะ (เป็นข้อประพฤติ) บุคคลทั้งหลาย
ย่อมป้องกัน คือย่อมรักษาข้อที่ทรงห้าม ด้วยศีลนั้น เพราะเหตุนั้น
ศีลนั้นจึงชื่อว่า วาริตตะ (เป็นเครื่องรักษาข้อห้าม) ในศีล ๒ อย่าง
นั้น จาริตศีลสำเร็จด้วยศรัทธาและวิริยะ วาริตศีล สำเร็จด้วยศรัทธา
(อย่างเดียว) ดังนี้ ศีลเป็น ๒ อย่าง โดยเป็นจาริตศีลและวาริตศีล
[ ทุกะที่ ๒ ]
วินิจฉัยในทุกะที่ ๒ มรรยาทอย่างสูง ชื่ออภิสมาจาร อภิ
สมาจารนั่นแล เรียกว่าอภิสมาจาร ชื่ออภิสมาจาริกะ อีกอย่างหนึ่ง สิกขาบทที่ทรง
บัญญัติปรารภอภิสมาจาร ชื่ออภิสมาจาริก คำว่าอภิสมาจารึกนี้
เป็นคำเรียกศีลที่นอกไปจากอาชีวัฏฐมกศีล
ศีลชื่อว่าอาทิพรหมจริยกะ เพราะเป็นภาวะเบื้องต้นแห่งมรค-
พรหมจรรย์ คำว่าอาทิพรหมจริยกะนี้ เป็นชื่อแห่งอาชีวัฏฐมกศีล
ก็อาชีวัฏฐมกศีลนั้นชื่อว่าเป็นภาวะเบื้องต้นแห่งมรรค เพราะเป็นคุณ
อันบุคคลพึงทำให้หมดจดในส่วนเบื้องต้นนั่นเอง เพราะเหตุนั้นพระผู้
มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า "ก็แลกายกรรม วจีกรรม อาชีวะ ของภิกษุนั้น
ย่อเป็นอันหมดจดดีแล้วในเบื้องต้นแล" ดังนี้ อีกอย่างหนึ่ง
สิกขาบทเหล่าใดที่ตรัสว่า "เป็นสิกขาบทเล็กน้อย" นี้ก็เป็นอภิสมา
จารึกศีล ที่เหลือเป็นอาทิพรหมจริยกศีล อีกอย่างหนึ่ง ศีลที่นับเนื่อง
* ม. อุปริ. ๑๔/๕๒๓.