ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธัมมปริปูกาแป ภาค ๑ - หน้าที่ 27
พระจักขุปลาถึงแล้ว มีน้ำครั่งต่อทันนั้นในเวลาเช้า ด้วยหวังว่า "จักดูเมนี้”
ในขณะนั้น หามฉบับตั้งขึ้นแล้ว พวกเธอคิดว่า "เดี๋ยวนี้
เช่นแล้ว, และเมฉับตั้งขึ้นแล้ว, เรากำลังกดูแต่เช้าเทียว" ดังนี้แล้ว
กลับไป. ฝนตกในปฐมยาม หยุดในมัชฌิมยาม. พระธัมมเป็นผุ้ (เคอ)
ปรารถนาความเพียร เดินจงกรมเป็นอิจฉา; เหตุนั้น. จึงลงสุ่ที่กรม
แล้วในปฐมยาม. และในกาลนั้น ตัวมนลงอ่อนทอง (หรือแมลงมุ่)
เป็นอ่อนมาก ตั้งขึ้นแล้ว บนพื้นที่ฝนตกใหม่. ตัวเหล่านั้น เมื่อพระ
เธอจงกรมอยู่ ได้บัด (ตาย) โดยมาก.
พวกอันเตวสิก ยังไม่ทันกวาดที่จงกรมของพระธัม
แต่เช้าตู่ ฝ่ายพระพวกภิฉนุกนี้ มาว่าหวังว่า "จังที่อยู่ของพระธัม" เห็น
สัตว์ทั้งหลายในท้องกรมแล้ว ถามว่า "ใครจงกรมในที่นี้." พวก
อันเตวสิกของพระธัมตอบว่า "อุปปาชัยของพวกกระผมอรัน."
เธอทั้งหลายติเตียนว่า "ท่านทั้งหลายฤกษ์รมของสมณะเกิด ในกาล
มิจฉาทันอนาคลับเสีย ไม่ทำอะไร. ในกาลมิจฉาทิฏฐิเดี๋ยวนี้
ไว่ว่า 'จงกรม' ทำลักษณ์ธุสประดามะถึงที่ให้ตายแล้ว ท่านคิดว่า
'จักทำประโยชน์' กลับทำการหาประโยชน์มิได้."
พวกเธอไปราบฏุพรตตกาดแล้วในขณะนั้นว่า "พระเจ้าข้า
พระจักขุปลาถึง ไว้ว่า 'จงกรม' ทำสัตว์มีชีวิตเป็นอันมาก
ให้ตอบแล้ว."
พระศาสดาตรัสว่า "ท่านทั้งหลายเห็นเธอกำลังทำสัตย์มี