ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระอิทธปฏิหาแปล ภาค ๑ หน้าที่ 50
ถึงจริง โดยไม่เปล่งกัน ถึงอย่างนั้น เมื่อนิยมะกำหนดลงในบทนี้ ย่อมได้แก่จิตเป็นภาพพจรฤกษ์ ๘ คง; ก็เมื่อล่าวด้วยสามารถวัดดุด ย่อมได้แก่จิตประกอบด้วยญาณ เป็นไปกับดั่งโยมนิสมณ์จากภาพพร ุกูลิจิต ๘ คงเท่านั้น
บทว่า ปุพพุทธมาคมา ว่าว่า ประกอบกับใจซึ่งเป็นผู้โล่อน นั้น. ขันธ ๓ มีวานาเป็นต้น ชื่อว่าธรรม. แท้จริง ใจเป็นหัวหน้า ของอุปบันธังก์ ๓ มีวานาเป็นต้นนั้น โดยรัการคือเป็น ปัจจัยเครื่องให้เกิดขึ้น เหตุนี้นั้น ก็พระคืบเป็น หัวหน้า. เหมือนอย่างว่า เมื่ออยากเป็นอันมาก กำลังทำบุญ มีวายบาดและจิวรเป็นต้น แก่อภิษฐ์สูงขึ้นมากีก๋ี มีบูชาช่ายยง และฟังธรรม และตามประทีป และทำสักกระด้วยระเบียนดอกไม้ เป็นดังนี้ก็ ด้วยกัน เมื่อผู้กล่าวว่า "ใครเป็นหัวหน้าของทายก เหล่านั้น," ทายกผู้ใดเป็นปัจจัยของพวกเรา, คือพวกเขาอัศจัยทายกผู้ใด จึงทำบุญเหล่านั้นได้, ทายกผู้นั้น ชื่อสิลสะกาม ชื่อบุสสะกามาประชุมช่อมเรียกว่ "เป็นหัวหน้าของพวกเรา" ฉันใด, คำถามไมยซึ่งเป็นเครื่องให้เกิดเนื้อความดังนี้ พันธิตรอันในบั้นนี้. ใจชื่อว่าเป็นหัวหน้าของธรรมเหล่านี้ ด้วยอรรถวาเป็นปัจจัยเครื่องให้ เกิดขึ้นด้วยประการะดังนี้ เหตุนี้นั่น ธรรมเหล่านี้ จึงถือว่ามีใจเป็น หัวหน้า. แท้จริง ธรรมเหล่านั้น เมื่อใจไม่เกิดฉัน ย่อมไม่สามารถ จะเกิดขึ้นได้, ส่วนใจ เมื่อคงบงเหล่ายังไม่เกิดฉัน ก็เกิดขึ้น ได้แท้ และใจชื่อว่าเป็นใหญ่กว่าธรรมเหล่านี้ ด้วยอำนาจเป็น