ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธีมปัทถุถูกถามแปล ภาค ๑ - หน้า ที่ 61
ดาบสุปรปีนี้ หาได้อนุโมทตามภาพตามใจสมัครไม่, มีสระอยู่ในที่
ไม่ไกลสระหนึ่ง ขอพระองค์ครับสั่งให้เธอยืนทุน
สีระ แม่อุ้ยในสระนั้นแหละ พระราชรับสั่งให้ทำอย่างนั้น
แล้ว. นทาดาบสุเรียกถวดาบสมว่า “ท่านอาจารย์ ครับฤทธิ์
อันผมคลายแล้ว, เมื่อแสงพระอาทิตย์ตั้งขึ้นอยู่, ท่านพิ้งคลายเสือใน
น้ำแล้ว โผล่ขึ้นไปเสียดโดยทางอื่น." ก่อนดินเหนียวบนศรีของ
เทวดาดาบสั้นนั้น พระองค์แห่งพระอาทิตย์ยกเข้ามัยนั่น. ก็แตกออก
เสียงแล้ว, เทวดาดาบนั้น ดำคลานนี้ไปที่อื่นแล้ว.
[เวรไม่ระงับด้วยฤกษ์จร ฯ]
พระศาสตด ครับทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ครับว่า
"ภิญฺฑุ่งหลาย พระราชาในกนโน้น ได้เป็นอานนทแล้ว, เทวดาส
ได้เป็นศาสะแล้ว, นทาดาบ ได้เป็นภารด, ถึงในครั้นนั้น ศิลา
นี่ก็เป็นผู้มากอย่างนี้เหมือนกัน" ดังนั้นแล้ว รับสั่งเรียกศิลธเรมา
แล้ว. ครับว่า “ศิลสจะ ก็เมื่อภิญฺทูคิคอว่า รับสั่งเรียกศิลสธเรมา
ถูกผู้ได้นับประทานแล้ว, ถูกผู้ได้นับแล้ว. ผู้ได้นับสิ่งของ ๆ นั้น" ไป
แล้ว" คำนี้ ชื่อว่าอร่อยไม่ระงับได้, แต่เมื่อมิภูกไม่เข้าไปุ้ยอยู่
อย่างนั้นนั่นแหละ เวรย่อมระงับได้" ดังนี้แล้ว ได้ทรงภายพระคาถา
เหล่านี้ว่า:-
"ก็ชนาเหล่าใด เข้าไปพูดความโกรธนั้นไว้ว่า “ผู้โน้น
ได้เรา ผู้โน้นได้เรา ผู้โน้นได้ขณะเรา ผู้โน้น
ได้ลักสิ่งของ ๆ เราแล้ว" เวรของชนเหล่านั้นย่อมไม่