ข้อความต้นฉบับในหน้า
ถวายผ้ากาสาวะนัันแก่พระเวทัศจ์
[เวทัศจน์นุ่มผ้าไม่สมควรแก่ตน]
พระเวทัศจน์ ตัดผ้านั้นแล้ว เย็น ย้อม นุ่มนิ่มเที่ยวไป
พวกมนุษย์เห็นท่านแล้ว จึงพูดกันว่า "ผ้าผืนนี้หามควรแก่พระ
เวทัศจน์ไม่ ควรแก่พระสมุทรเดชะ พระเวทัศจน์นุ่มผ้าถึงไม
สมควรแก่ตนเที่ยวไป."
ขณะนั้น ภิกษุผู้ผิดหวังศรุตหนึ่ง (ออก) จากกรุงราชกุฏิ
ไปปลุกรุ่งสว่างดี ถวายบังคมพระศาสดา เป็นผู้อื่นพระศาสดาทรงทำ
ปฎิสันถาร คราสถาถิ่นการอยู่ของพระอัครสาวกทั้ง ๒ แล้ว จึง
กราบทูลเรื่องนั้นทั้งหมดจ่ำเดิมแต่ด้วน.
พระศาสดา ตรัสว่า "ภิกษุ เวทัศจน์นั่นทรงผ้าที่ไม่สมควรแก่
ตนในบัดนี้เท่านั้นก็มีได้, มิใชในก่อน เธอก็ทรงแล้วเหมือนกัน"
ดั่งนี้แล้ว ทรงนำอดีตนามา (ตรัสว่า)
[ครั้งก่อนเวทัศจน์เป็นนายพรานช้าง]
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัศครองราชสมบัติ ในพระนคร
พาราณสี, นายพรานช้าง ชาวพระนครพาราณสีผู้นี้ ล้มช้างแล้ว
นางา หนึ่ง ใส่ใหญ่และเนื้อผ้าลำมาแล้วขายชีวิต. ครั้งนั้นช้าง
หลายพันเชือกเดินหากินอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง พบพระเจดูกุทธะหลาย
องค์ จำเดิมแต่ก่อนนั้น เมื่อไป หมอองด้วยเขาทั้ง ๒ แล้วจบ
ในกลาศไปและมา (ทุกครั้ง) แล้วจึงผ่านไป วันหนึ่ง นายพรานช้าง