ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธรรมปิฎกวิสุทธิแปล ภาค ๑ หน้าที่ 33
ที่รวมประทุมร้ายแล้ว จะชื่อจิตใหม่มีใซ อะชื่อว่าจงจิต
ตามเดิมนั่นแลก็มีใช้นั้น เหตุนี้้น พระผู้มีภาคเจ้าจึงตรัสว่า
"ภิญฑุหลาย จิตนี้ผุผ่อง แต่มั่นคร่ำครวญแล้ว เหตุอุปเกิสด
ทั้งหลายซึ่งรวมมาแล" ดังนี้ ถามบุคคลมิใช่ร้ายแล้วอย่างนี้
บาทลากว่า ภาคิตว่า กโรติ ว่า เขาเมื่อพูดเฉพาะ
แต่จริงๆ ก็ อย่าง เมื่อทำ ยอมทำ เฉพาะแต่กายุทธิ 3 อย่าง,
เมื่อไม่พูด เมื่อไม่ทำ เพราะความที่ตัองเป็นปัญหาโทษในอริยะ
เป็นต้นประทุร้ายแล้วนั้น ยอมทำโทษในอริยะ 3 อย่างให้เต็ม อุกาศ-
กรรมบาด 10 อย่างของเขา ย่อมถึงความเต็มที่ ด้วยประกอบอย่างนี้
บาทพระลากว่า โตฎ น ทูกฌานนวิศาติ ความว่า ทุกย่อม
ตามบุคคลนั้นไป เพราะยุติ 3 อย่างนั้น เป็นผล
ทั้งนี้ไปในกาย ทั้งนี้ไปในจิต โดยบรรยายว่า "ทุกยักษา
เป็นที่ตั้งบ้าง ทุกยักษ์นี้เป็นที่ตั้งบ้าง" ย่อมไปตามอัตภาพ
นั้น ผู้ไปรอในอวาย ๔ คดี ในหมู่มนุษย์ก็ดี เพราะอานุภาพแห่ง
ทุจิต.
มีคำถามว่า "ทุกย่อมคิดตามบุคคลนั้นเหมือนอะไร?" "คำเก่าว่า เหมือนล้อหมุนไปตามรอยเท้าของโคพลิพัท
ไปอยู่ อริยะขว่า "เหมือนล้อหมุนไปตามรอยเท้าของโคพลิพัท
นั่นเทียมไปที่แดน นำเอาไปอยู่ เหมือนอย่างว่า มันลากไป
วันหนึ่งดีดี ลองวันดีดี หัววันดีดี ลิ้ววันดีดี ถึงเดือนดี
ย่อมไม่อาจให้ล้อหมุนกลับ คือ ไม่อาจจะล้อไปได้, โดยที่แท้เมื่อ