ข้อความต้นฉบับในหน้า
प्रโบคฺ - พระอิทธปฺฏิฤทธอาแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 48
ดังนี้เป็นต้นมีใช่หรือ ? เมื่อจะทรงประกาศด้วยคำทั้งสองกล่าวกัน
แล้วได้ตรัสเรื่องมฤคุญาติสีลหม่อ. เพราะฉะนั้นและเรื่องมฤคุญาติ
นั่นจึงได้อว่าเป็นพุทธภาคิต. ก็แปล ครับพระศาดาศตร์เล่าเรื่อง
มฤคุญาติฉนั้น จึงตรัสว่า "พราหมณ์" ไว้ว่า มีแต่ร้อยเดียว
และสองร้อย, โดยที่แท้ การที่จะนับเหล่าสัตว์ซึ่งทำให้เสื้อใสใน
เราแล้วเกิดในสวรรค์ ย่อมไม่มี." มหาชนได้เป็นผู้คิดความสงสัยแล้ว
ลำดับนั้น พระศาดาฯทรงทราบความซึ่งหามิได้สลายความ
สงสัย ได้ทรงอธิฐานว่า " ขอ มฤคุญาติสีวาทวุฒิ จงมาพร้อม
'ด้วยวิมานทีเดียว." เธออัปภาพอันประดับแล้วด้วยเครื่องอาวุธ
ทิพย์ สูงประมาณ ๓ คาวุตมาแล้ว ลงมาจากวิมาน ถวายบังคมพระ
ศาดาฯ แล้ว ได้ยืน ณ ที่ควร้างหนึ่ง.
ลำดับนั้น พระศาดาฯเมื่อตรัสถามเธอว่า "ท่านนั่งกรรม
สิ่งไร จึงได้ยอติ" ได้ตรัสพระคาถาว่า
"เทพดา ท่านมีสายงามยิงนัก ยืนทำทิต
ทั้งสิ้นให้ดัง เหมือนดาวประจิง, เทพฤา
ผู้อนุภาพมาก เราขอกามท่าน. (เมื่อ) ท่าน
เป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว."
เทพบุตรกราบทูลว่า "พระองค์ผู้เป็นชม สมบัติข้าพระองค์
ได้แล้ว เพราะทำให้เสื้อใสในพระองค์.
(๒) ในปทานุกรมบาลี ฉบับของ R.C. Childers อธิบายว่า :-ดาวรัญว่า
(โอสถ ยา, ตารกา ดาว): ดาวประจรง (Morning star) ในคำานี้แปลว่า
ดาวประจรง.