ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโคด - พระอิ่มมปัฏิฐิผูกเขาคาแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 183
ตรัสแย้งว่า "ถึงท่านทั้ง ๒ ก็ยังไม่ทรงทราบ, ธรรมาคัปถ์ ย่อม
เกิดขึ้นในฤดูทองคำ ประมาณศกก่อน."
"ได้ยินว่า บรรดากษัตรย์ ๑ องค์นั้น วันหนึ่ง กินพิณกุมาร
ทรงเห็นเขาบนข้าวเปลือกลงจากกลาง ก็เข้าสะทีว่า "ข้าวเปลือก
เหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในงานนั้นเอง."
ฝ่ายพระภัททิยมาร วันหนึ่ง ทรงเห็นขาคภัตรออกจาก
หม้อข้าว ก็เข้าพระทัยว่า "การเกิดขึ้นในหม้อข้าวั้นเอง."
ส่วนอนุรุทธมาร ยังไม่เคยทรงเห็นคนชอบข้าว คนหุงข้าว
หรือคนคุดข้าว, ทรงเห็นแต่ข้าวที่เขาแล้วตั้งไว้ เฉพาะพระพิฑ์ตร
เท่านั้น. ท่านจึงทรงเข้าพระทัยว่า "การเกิดในภาค ในเวลาที่ต้องการ
บริโภค." กษัตริย์ทั้ง ๑ พระองค์นั้น ย่อมไม่ทรงทราบแน่ที่เกิดแห่ง
ภาค ด้วยประกาศอย่างนี้ เพราะฉนั้นอนุรุทธมารจึงลุลามว่า
"ขึ้นชื่อว่าทางนี้เป็นอย่างไร ? ครับ ได้ทรงฟังกิจการ ที่รวามส
จะพึงทำประจำมือว่า "เบื่องต้นต้องให้โน่น, จึงตรัสว่า "เมื่อไร
ที่สุดแห่งการงานทั้งหลายขาดปรากฏ, เมื่อไร หมอฉัน จึงจักมีความ
ขวนขวายบ่อย ๆ ใช้สอยโภคะได้ล่าก?" เมื่อจามานามตรัสซอบ
ความไม่มีที่สุดแห่งการงานทั้งหลายแล้ว กล่าว่า "ถ้าอย่างนั้น ขอ
เจ้าพื้นแดน ทรงครองมราวาสเกิด หม่อมฉันหาด้วย
มาราวาสนั้นไม่" ดังนี้แล้ว เข้าฟังพระมารดา กราบทูลว่า
"เจ้แม่" ขอเจ้ามอญอญาตหมอฉันเกิด, หม่อมฉันจักบวช" เมื่อ
พระนางทรงห้ามถึง ๓ ครั้ง ตรัสว่า "ถ้าพระเจ้าทักทาย พระสหาย