ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคได้นี้ จำเดิมแต่กาลที่ตนเห็นนางเทพอัปสรแล้ว พยายามเพื่อบรรลุที่สุดแห่งกิจของบรรพชิตอยู่ ได้บรรลุฌานแล้ว ได้ทรงภัตพระคาถานี้ว่า "ฝันย่อมรวดเรือนที่มุ่งมิได้ ฉันใด รกะย่อมเสียดแทงจิตที่ไม่ได้บรมแล้วได้ ฉันนั้น ฝันย่อมรวดเรือนที่มุ่งดีแล้วไม่ได้ ฉันใด รกะก็ย่อมเสียดแทงจิตที่อิ่มบรมดีแล้วไม่ได้ ฉันนั้น." [แก้ อรรถ] บรรดาบทเหล่านี้น บทว่า อารัก คือซึ่งเรือนชนิดใดชนิดหนึ่ง บทว่า ทุจฉนุ์ คือที่เขามุ่งห่าง ๆ มีช่องเล็กช่องน้อย. บทว่า สมติวิปุณฺติ คือเมฆฝนย่อมรวดได้. บทว่า อากวีติ เป็นดังนี้ ความว่า รกะย่อมเสียดแทงจิตที่ชื่อว่า ไม่ได้บรม เพราะเป็นธรรมชาติเดินทางวานา ราวกับว่านฝน (รั้วรด) เรือนนั้นนะนั้น, ใช้แต่ราวอย่างเดียวท่านนั้นหามได้, สรรพิกเทศ ทั้งหลายมีโกละ โมทะ และมาละ เป็นอาทิ ก็ย่อมเกิดเพื่อนปานนั้นเหมือนกัน. บทว่า สุภาวิต ได้แก่ ที่อรวงดีแล้ว ด้วยสมภาวนาและ วิปสนานาวนา; กิเลสทั้งหลายมีร้างเป็นต้น ย่อมไม่อาจเสียดแทงจิต เห็นปานนั้นได้ ราวกับว่าฝนไม่อาจรัวเรือนที่มุ่งดีแล้วได้ฉะนั้น. ในการบกวลา ชนเป็นอันมากได้รับรสุรอัยผลทั้งหลาย มีโสดา- ปัตผลเป็นต้น เทนาได้สำเร็จประโยชน์แก่มหาชนแล้ว.