ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระธรรมบทที่ถูกอ้างใน ภาค ๑ หน้าที่ 75
พระธรรมกิถินั้น ได้เป็นผู้มีความเห็นอันดีว่ามิใช่อภิบัติ
ฝ่ายพระวินัยธร ได้บอกแก่พวกนิสิตของตนว่า "พระธรรม-
กิถินี้ เป็นอาบัติตมิรู้" พวกนิสิตพระวินัยธรนั้น เห็นพวกนิสิต
ของพระธรรมกิถินั้นแล้ว ได้กล่าวว่า "พระอุปฆายของพวกท่าน
แม่ต้องอาบัติแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นอาบัติ" พวกนิสิตของพระธรรมกิถินั้น ไปแจ้งแกพระอุปฆายของตนแล้ว พระธรรมกิถินั้น พูด
อย่างนี้ว่า "พระวินัยธรรมนี้ เมื่่อก่อน พูดว่า 'ไม่เป็นอาบัติ,' เดี๋ยวนี้
พูดว่า 'เป็นอาบัติ,' พระวินัยธรนั้น พูดมาครับ" พวกนิสิตของพระธรรมกิถินั้นไปกล่าวว่า "พระอุปฆายของพวกท่านพูดมาครับ" พวกนิสิต
ของพระวินัยธรและพระธรรมกิถินั้น ทำความแก้ไขและกันและกัน
ให้จริงแล้ว ด้วยประการอย่างนี้
ภายหลัง พระวินัยธรได้อากาศ จึงได้กล่าวแก่พวกเขานิยกรรมเด็
พระธรรมกิถิ เพราะ โทษที่ไม่เห็นอาบัติ จำเป็นแต่กาลนั้น แม
พวกอุปญากผู้อาวุโภของญาณ รูปนั้น ก็ได้เป็น ฝ่าย พวก
อัญญาอภัย ผู้เพื่อนเห็น เพื่อน ๆ ของพวกอารักเทวตล่า
นันก็ดี พวกปุญญาทั้งปวงดี ได้เป็น ๒ ฝ่าย ตลอดจนพรหมโลก
ก็โลกาหลก้องเป็นเสียงเดียว ได้ยินไปจนถึงภูฎพ
อ
1. กรรมที่ส่งเสร็จพินิจการเกิดที่ส่งสมภาระกะเสย 2. เทวาดีกลักรอรักษา
3. เทวาดกลอุในอากาศ