ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - พระอิฐมปฏิรุกข์สมบัติ ภาค ๔ - หน้าที่ 40
นี้เป็นเวลาที่กษมา "
ชาวประมง. กีวีงปลายมืออยู่ไหม ?
มหาหกตะ : ไม่มี เพื่อน หมดสิ้นแล้ว
ชาวประมง. ถ้าอย่างนั้น ปลาเตะเพี้ยน ๕ ตัว ข้ามมหกรม
ไวเพื่อประโยชน์แก่ตน. แม้ถ้าแก้ต้องการจะเลี้ยงกิฐจ, จงเอาปลา
เหล่านี้ไปเกิด" ดังนี้แล้ว ก็ได้ให้ปลาดะเพียนเหล่านั้นแก่มาไป
[มหาหกตะ : ได้ถวายทานแด่พระพุทธเจ้า ]
วันนี้น พระศาสตรตรวจดูสัตว์โลก ในดาวใกล้รุ่ง ทรง
เห็นมหาหกตะ : เข้าไปในข่ายคือพระญาณของพระองค์ ทรง
รำพิ่งว่า " จักมีเหตุอะไรนะ ? " ทรงดำรัสว่า " มหาหกตะ : คิดว่า
' ถึงเลี่ยงกิฐรูปหนึ่ง, จึงได้ทำงานจงบรรจงรถเวลา , เขา
ถ้าได้กิฐรูปไหนหนอ ? " จึงทรงใคร่ครวญ " คนทั้งหลาย จัก
พากย์ไปตามชื่อที่ตัวในบัญชีแล้ว ให้ยินในเรือนของตน ๆ มหา-
มหากะ. เราเสียแล้ว จักไม่ไกลกู้อื่น."
ใดนว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมทรงทำความอนุเคราะห์
ในพวกเขาใจ เพราะฉะนั้น พระศาสตรทำกิจสรรเสริญแต่ชาตู่
แล้ว เสด็จเข้าสู่พระคันธภูมิ ประทับนั่ง ด้วยทรงดำรัสว่า " จัก
สงเคราะห์มหาหกตะ" แม้มื่อมหาหกตะ : กำลังถือปลาเข้าไป
สู่เรือน, บัดทูกับพลสลาลาสนของท้าวสักกะ แสดงอาการร้อน
ท้าวเธอจงพิจารณาว่า " เหตุอะไรล่ะหนอ ? " ทรงดำรัสว่า " งานนี้
มหาหกตะ ได้ทำงานจงกับบรรรยาของตน ด้วยตั้งใจว่า ' จักถวาย