ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค2- พระฉัททันต์ปฐมกษัตริย์แปล ว่า ภาค ๕ - หน้าที่ 92
3. เรื่องพระเทพภิรมย์สีลสา : [ ๑๓ ]
[ คำถามเบื้องต้น ]
พระศาสดาประทับอยู่ในพระเทศน์ นทรทรงปรารภท่านพระภูสีสา
ตรัสพระธรรมเทคนิคว่า "เลย สุนัขโย นกฏิ" เป็นต้น.
[ ทรงบัญญัติสนิทริยา สิกขาขา ]
คงได้สั่งมา ท่านนั้นเที่ยวบินทบาตถนนหนึ่ง ภายในบ้าน
ทำฉันก็กินแล้ว ที่ขามอเดี๋ยก็เอา ลงไปรักษาแพรกไว้
คิดเห็นว่า "ขึ้นชื่อว่าการเที่ยวแสงหาบนบาตรไป เป็นทุกข์"
ยังวันเล็กน้อยใหล่ลงไป ด้วยสุขในอานแล้ว, เมื่อก็ต้องการด้วย
อาหารมืมี, ย่อมฉันข้าวตาก้อน. พวกภูมิรู้เขาตื่นแล้วทุกความ
นั่นแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระศาสดาทรงบัญญัติสิกขาขาแก่
ภิกษุทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ในงานการส่งต่อไปในเพราะทูนับแล้ว
ก็อดเมื่อจะทรงประกาศความหาโทษมิลได้แห่งพระเถร เพราะการเก็บ
อาหารนั้น อันพระเถรอภัยความมักน้อย ท่านน้อมมิให้ทราบบัญญัติ
สิกขาบาท เมื่อจะทรงสนับสนุนแสดงธรรม ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
* สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยารัชชานุวรรธ ทรงแปลเป็นตัวอย่าง.
ก.บทว่า อายสมา แปลตามพยัญชนะว่า ผู้มีอายุ แต่ตามอรรถไม่ให้หมายว่า สูง
อายุ เป็นที่พวกภิกษุใช้อยากกันเองโดยโอวาทเครา จึงแปลว่า "ท่าน "
ข.บทว่าเป็นทุกข์นี้ ในภาษาไทยใช้เหมือนอุปมาคือ กล่าวอธิบายอันหนึ่ง กล่าว
ผลอย่างหนึ่ง. ในที่นี้กล่าวเหตุ เคยแปลว่า นำมาซึ่งทุกข์ หรือยังทุกข์ให้เกิด
แปลไว้ท่าพัทธ์เพื่อจะได้แปลว่า.