ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ตตอนบสนุนปาสำทิกา อรรถภาพพระวินัย มหาวรรคร ตอน ๒ - หน้าที่ 237
พระอุปัณฑะทศากายบุตร ได้ทำปฏิญญาว่า "เราขอจำพรรษาในวันเข้า
พระรรตน ณ อาวาสของท่านทั้งหลาย."
ข้อว่า ปฏิญญา อน ปฏิญญาติ โดยว่า การจำพรรษาใน
อาวาสซึ่งได้รับปฏิญญาไว้ท่ามปราศจากไม่.
วินิจฉัยในข้อว่า ปฏิสุทา จ อาปฏิฏี ทุกลูกสุด นี้ พึง
ทราบดังนี้ :-
ยอมเป็นอาบัติพระรับคำว่า "ท่านทั้งหลายยอมจำพรรษาใน
ที่ติดด อเดือนนี้" ดังนั้น อย่างเดียวนท่านถามไม่ว่า ยอมเป็นอาบัติ
ทุกกฏ เพราะรับคำนี้แม่โดยนัยเป็นต้นอย่างนี้ว่า "ท่านทั้งหลาย
จงรับภิกษาตลอดด อเดือนนี้, ข้าพเจ้าแม่ทั้ง ๒ กายอยู่ที่นี่ จักให้
แสดงรวมกัน." กฎูสาธุภูกูอันนั้นแต่ ยอมเป็นพระเหตุอันกล่าวว่า
ให้คลาดในภายหลัง ของภิกษุสมจิตบริสุทธิ์ในวันต้น. แต่สำหรับ
ภิกษุมีจิตไม่บริสุทธิ์ในชั้นเดิม ควรปรับทุกกฎับปาฏิทติย์ คือ
ทุกกฎุเพราะรับคำ ปฏิฏีเพราะแสดงกว่าจะให้คลาด.
วินิจฉัยในข้อว่าหลายมีข้อว่า โย ตทหง อกรณีโย เป็นต้น
พึงทราบดังนี้ :-
ถ้าภิกษุไม่เข้าอำพรรษา หลักไปเสียดี, เข้าพรรษาแล้ว
ยัง ๓ วันให้ล่วงไปภายนอก (อาวาส) ก็ได้, วันเข้าพรรษาต้นของ
เธอไม่ปรากฏด้วย เธอต้องอาบัติพระรับคำด้วย แลว่าไม่เป็นอาบัติ
แก่อภิฤทธิ์พรรษาว่าแล้ว ไม่ทันให้จูงขึ้น แม้หลักไปด้วยสัตตภา-
กรณียะในวันที่นั้นเดียว กลับมาภายใน ๓ วัน, ก็อาจกล่าวว่าอะไร จะพึงแก่อภิฤทธิ์พรรษาแล้ว ๒-๓ วัน (สัตตาหะไปเสียด)