ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ดตอ้มสนัปาสักทำ อรรณภาวีรเวียน หมหาวรร ตอน 2 - หน้าที่ 305
แม้นสัตตาหากคลิกที่เหลือ มีน้ำผึ้งและน้ำตาลที่เป็นแท่งเป็นดิน
ก็นิยนี้แล้ว
พวกทายาภายิบเทาบก ประดับด้วยกระวนและลูกจันทร์
เป็นต้นข้าง กระวนและลูกจันทร์เป็นต้นนั้น พึงออกลังไว้ทันใด
ตลอดชีวิต ในจึงเขาใสในขายคุณยายเป็นต้นดี ในชะอมที่เขาใส่
แม้น้ำมันเป็นอาทิ แล้วถอยเป็นต้นดี มันเหมือนกันแฉ
กิริกใจ ๆ เป็นของมีสาระคนปกกันไม่ได้อย่างนั้น กิริกนั้น ๆ
แม้รับประเคนรวมกัน ล้างหรือปอกเสียบกรูบสุทธิแล้วฉัน ด้วยอำนาจ
แห่งกาลของกาลนั้น ๆ ย่อมครบ. แต่ถ้ากาลใดเป็นของมียมราก
กันได้ ปนกันได้ กาลนั้น ย่อมไม่ควร
จริงอยู่ ยากกิริกย่อมชักกิริกทั้งสามมยกากันเป็นต้น ซึ่งมี
รสเจือกับกัน เข้าสุขภาพของคน ถึงมากกิริก ก็หลากกิริก แม้ของมี
สัตตาหลักเป็นต้น เข้าสุขภาพของคน สัตตาหลักเล่า ย่อมซัก
ยาวชีวิตที่เราบกประเคนในวันนั้น ซึ่งมี
สัตตาหลักเป็นต้น เข้าสุขภาพของคน สัตตาหลักเล่า ย่อมซัก
ยาวชีวิตที่จะเขากับตน เข้าสุขภาพของคนเหมือนกัน, ๒๐๙
เพราะฉะนั้น พึงทราบกันฐานว่า "ยาวชีวิตที่เราบกประเคนในวันนั้น
ดีดี รับประเคนในวันก่อน ๆ ดีดี ปนกับสัตตาหลักนั้น ซึ่งรับ
ประเคนในวันนั้น ควรเพียงเจ็ดวัน ปนกับสัตตาหลักที่รับประเคน
ไว้สองวัน ควรเพียงเจ็ดวัน ปนกับสัตตาหลักที่รับประเคนไว้สามวัน
ควรเพียงหัววัน ปนกับสัตตาหลักที่รับประเคนไว้เจ็ดวัน ควรในวัน
นั้นเท่านั้น." ก็เพราะเหตุนี้นและ พระผู้พระภาคจึงไม่กล่าวว่า "กิณ
ทั้งหลาย ยาวชีวิตที่รับประเคนในวันนั้น ปนกับสัตตาหลัก (ควร