ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ตลอดสงฆปาสาทิกา อรรถาภาวี สานิยม หาวรรร ตอน ๒ - หน้า ที่ 393
กรรมเป็นธรรมด้วยอำนาจวิเศษว่าเป็นจริง พระผู้มพระภาคจึงตรัสว่า
อิธ ปาน ภิกขุว สภูมิ สะ เน โหนิ อาปุตติ ทุรฺพุทฺโธ เป็นดังนี้
บรรดาเทพนั่น นางวา ปฏิมาสุขตา คือ ทุรฺสมา
อัณจะพิสิลละเสว กรรมเป็นธรรมและไม่เป็นธรรม ด้วยอำนาจวิเศษ
นันแล พระผู้มพระภาคทรงจำแนกไว้ ในอุบายสีปัญหามีอ ปัญญา
ปัญหานั้น มีนัย ๒ คือ นัยมีมูลเดียว ๑ นัยมีมูลสอง ๑ นัยมีมูล
อันเดียวชัดแจ้งแล้ว ในอันมีมีสอง สติวนับอาจภวัน ท่านทำ
ให้เป็นคำถามเดียวกัน ณ คำใด, แม้อุปมาว่านเป็นต้น กับสัปปะ-
ปัยสกาเป็นต้น ก็พึงทำให้เป็นคำถามเดียวกันในอันนั้น ส่วนในข้อ
สุดท้าย คำว่า อุปสมุปธํ อุปสมปาเทติ ย่อมเป็นบทอันเดียว
กันแท้ пляหหน้า พระผู้มพระภาคการประกอบบทที่เหลื้องหลาย
กับบทอันหนึ่ง ๆ ทำสิวนั่นแม้แห่งภควาให้เป็นต้น
เพื่อแสดงวิบัติในกรรมเข่อย่าง มีอชิชทธรรมเป็นต้น พร้อม
ทั้งกิริยาที่จะรับ จัดเป็นหมวด ด้วยอำนาจบทนั่น คือ อธมฺมมานุ
วิโด อธมฺมสน สมคฺค อธมฺม วจฺจิ ธมฺมปริปุณณ สมคฺค พระผู้มพระภาคจิตวิรัสว่า อิท ปน ภิกขวา
ภูญุ ญาณ กุณฑน การโก เป็นอาที
บรรดาเทพนั่นน เป็นว่า อนุปทาน ได้แก่ ผู้วันจาก
มารยาท, อาคารเป็นเครื่องกำหนด เรียกว่า มารยวก ความว่า ผู้วัว
จากความกำหนดอาบัติ. เมื่อหน้าแต่นั้น พระผู้มพระภาครำาสิ
นั่นเอง เทียบเคียงกับบทว่า อดก คมุโ เป็นดังนี้ เพื่อแสดงประเภท